บทความนี้เราจะพูดถึง Twitter SEO หรือ SEO Twitter และ twitter backlink โดยการใส่ข้อความใน Twitter ทำให้เราสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากคนหรือข้อมูลที่เราสนใจได้ทุกสถานการณ์ และในทางกลับกันลูกค้าที่เขาสนใจอยากติดตามข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของเรา เขาก็สามารถที่จะ Follow เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวจากเราอย่างใกล้ชิดได้เช่นเดียวกัน
ด้วยคุณสมบัติจากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ จึงทำให้ปัจจุบันร้านค้าออนไลน์ นักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการจำนวนมากต่างหันมาใช้บริการประกาศ โฆษณา หรือประชาสัมพันธ์สินค้าตัวใหม่ แนะนำโปรโมชั่นสินค้าลดราคา และโปรโมทเว็บไซต์บน Twitter กันมากขึ้น ที่สำคัญมีคนจำนวนไม่น้อยที่หันมาทำ SEO Twitter เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายรู้จักกิจการหรือสินค้าเรามากขึ้น และสามารถถูกค้นหาเจอได้จากเว็บไซต์ประเภท Search Engine โดยเฉพาะ Google นั่นเอง
ในส่วนของคนที่ใช้ Twitter ทำ SEO โดยเฉพาะมือใหม่นั้นการที่เว็บไซต์จะประสบความสำเร็จการทำตลาดออนไลน์ในทุกรูปแบบได้นั้นจะต้องมี Traffic ให้มากเสียก่อน ซึ่งหลักการทำงานของ Twitter ในขั้นแรก จะให้คุณค้นหา Profile ผู้ใช้ Twitter ตามหมวดหมู่ความสนใจ จากนั้นก็ Follow คนที่คุณชอบให้หมด ซึ่งจะหาให้ครั้งละเป็นร้อยเป็นพันหรือมากกว่านั้นก็แล้วแต่ความนิยมของหมวดหมู่
ยิ่งคุณ Follow คนที่ชอบอะไรเหมือนกับคุณแล้ว แนวโน้มที่เขาจะ Follow คุณกลับก็มีสูง พอคุณมีจำนวนผู้ติดตาม (Follower) ข้อมูลข่าวสารเรามากเป็นร้อยเป็นพันแล้ว คราวนี้คุณจะทวีตข้อมูลแต่ละครั้งก็สามารถมั่นใจได้เลยว่าจะมีคนเห็นบทความนั้นไม่น้อยเลยทีเดียว และนั่นคือหลักการใช้ Twitter เพื่อช่วยเรียกจำนวนคนเข้ามายังเว็บไซต์คุณ อันเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยทำ SEO ด้วยเช่นกัน (เรามีบริการ รับสอน SEO ด้วยนะ)
สำหรับTwitter นั้นจะมีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนความยาวของตัวอักษรที่จะทวีตได้ไม่เกิน 140 ตัวอักษร ซึ่งในทางตรงกันข้ามก็อาจเป็นเสน่ห์ของข้อความที่ทวีตก็ได้ (สนใจเพิ่มยอดขายยอดเข้าชมติดต่อเรา บริษัทรับทำ SEO)
ทำไมต้อง Twitter SEO?
พบว่าหลายคนมองข้ามความสำคัญของ Twitter ที่มันช่วยให้ SEO ของเว็บดีขึ้นมาก ทุกวันนี้ ก็บอกเลยว่าเลือกใช้ Twitter เป็นโซเชียลหลักในการดึงคนเข้ามาสู่เนื้อหา และช่วยให้ SEO ดีขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย
ช่วงแรกที่ถ้าเราทำเว็บแล้วไม่ค่อยมีใครอ่านหรือเสิร์ชอะไรก็ไม่เคยเจอเว็บเราเท่าไหร่ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มียอดแชร์ในทวิตเตอร์เกิน 300 – 500 เมื่อไหร่ โพสต์นั้นๆ จะติด SEO ของกูเกิ้ลดีมากๆ
Twitter มีผลกับ SEO ได้ด้วยปัจจัยหลายอย่าง
- Google กับ Twitter ตกลงกันได้ และเริ่มทำ Index ข้อความลงในเสิร์ชของกูเกิ้ล
- ผลคือเมื่อมีคนทวีตหรือแชร์ Link หน้าเว็บของเรา ก็มีผลกับ Rank ในกูเกิ้ลด้วยเช่นกัน
- หลายเว็บทำ Index ข้อความในทวิตเตอร์ด้วย ซึ่งก็มีการรีทวีตหรือ Quote ReTweet ไปในหลายๆที่ ซึ่งนอกจากในเว็บทวิตเตอร์แล้ว จะเห็นว่ามีอีกหลายเว็บที่เก็บทวีตเก่าๆ ของคนอื่นๆ มาด้วย ทำให้เราได้ backlinks เพิ่มมาที่โพสต์เราโดยที่ไม่ต้องทำอะไร
- ยิ่งข้อความไหนที่มีการแชร์, Retweet, Quote Retweet มาก ก็จะมีเว็บที่ไปเก็บข้อความเหล่านั้นมากขึ้น และมี link กลับไปที่เว็บเรามากขึ้น
- Twitter ออกมาเผยเองว่า SEO ทำให้คนเข้ามาเว็บทวิตเตอร์เพิ่มกว่า 10 เท่า และกำลังทำงานร่วมกับเสิร์ชรายต่างๆ เพื่อเพิ่มความเป็น SEO Friendly มากขึ้น
การแชร์บน twitter เปรียบเทียบกับการแชร์บน Facebook, Google+
ถ้าพูดถึงการดึงคนเข้ามาอ่าน Facebook ยังเป็นแชมป์อยู่ เพราะคนเล่นเยอะกว่า Twitter หลายเท่า และ Google+ ก็มีผลกับ SEO ด้วยเช่นกัน แต่โดยปกติแล้วคนเล่น FB มักแชร์แบบเฉพาะเพื่อน ทำให้กูเกิ้ลหาไม่เจอ ส่วน G+ ก็ไม่ค่อยมีคนเล่นในไทย ต่างกับ Twitter ที่คนเล่นส่วนใหญ่ใช้แชร์แบบ Public ทำให้มีการ index บนเสิร์ชต่างๆ ได้ง่ายกว่า
แม้การทำให้ยอดแชร์มากในทุก Social ย่อมมีผลดี เพียงแต่ช่วงหลังเห็นหลายเว็บเน้นไปที่ Facebook โพสต์กันคึกคักจนพอไปดูแอค Twitter แทบจะร้าง ทางที่ดีควรให้ความสำคัญทั้งการแชร์บน Twitter และ Facebook จากการทดสอบยิ่งมียอดแชร์ทางทวิตเตอร์เยอะ ยิ่ง SEO ดี (อ่านเพิ่มเติม Tiktok SEO)
ข้อแนะนำในการทำ SEO บนเว็บโดยใช้ Twitter หรือ SEO Twitter
- ถ้าเทียบกันการแชร์ Link ไปเว็บ ด้วยจำนวน Impression เท่ากัน คนจะ click link จาก Facebook มากกว่า Twitter แต่ยอดแชร์ต่อ (Retweet) บน Twitter มักจะมากกว่า Facebook
- ไม่ควรใช้บริการย่อ Link ให้สั้น เช่น goo.gl, bit.ly ควรทำ Link โดยใช้ URL แบบเต็ม สมัยนี้ Twitter จะย่อ URL ให้เราโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว
- แม้คนเล่น Twitter ส่วนใหญ่จะใช้บนมือถือ แต่ไม่ควรใช้ Link ที่เป็นเวอร์ชันมือถือ เช่น markettium.com/?m=1 หรือ mobile web ทั้งหลาย แต่ควรใช้ Link เวอร์ชัน Desktop เต็มๆ เช่น markettium.com
- เลือกชื่อ Account ที่เป็นชื่อเดียวกับเว็บหรือแบรนด์ ถ้าชื่อมีอยู่แล้ว ลองเพิ่มชื่ออื่นต่อท้าย เช่น @MarkettiumThai ถ้า @Markettium มีคนจดก่อนแล้ว
- คำที่จะทวีต ไม่จำเป็นต้องเป็นชื่อเดียวกับหัวข้อโพสต์หรือบทความ
- ควรเลือก Hashtag ที่เสิร์ชหาได้ง่าย เป็นชื่อเดียวกับแบรนด์ หรือเป็นแท็กที่คนเลือกใช้กันอยู่แล้ว หลายเว็บโชว์ Hashtag ยอดฮิตประจำวันไว้ด้วย
- ไม่ควรใช้ Hashtag(แฮชแท็ก) เยอะ
- Hashtag ภาษาอังกฤษ มักได้ผลกว่าภาษาไทยในเรื่อง SEO และยังขยายต่อไปถึงชาวต่างชาติได้ด้วย เช่น #HormonesTheSeries มีใช้ทั้งในไทย และต่างประเทศ
- Twitter Ads ช่วยให้คนเห็นได้มากขึ้นเยอะเหมือนกัน
- ควรมีปุ่ม Share Twitter บนโพสต์ในเว็บ สำคัญพอๆ กับปุ่มแชร์บน Facebook, Google+ (สนใจ >> บริการรับทำเว็บไซต์ E-Commerce)
- ให้ความสำคัญกับการกดไปที่ปุ่มแชร์ Twitter แล้วจะได้ข้อความว่าอะไร โดยมาตรฐานคือ “[หัวข้อโพสต์] via @xxx http://www.link.com”
- หลายที่พยายาม Tie-in Brand เข้าไปเยอะ คนจะไม่อยากกดแชร์ “[หัวข้อโพสต์] via @xxx ชื่อบริษัทของผม #แบรนด์ของผม http://www.link.com”
- ทดลองเสิร์ชในทวิตเตอร์ดูว่าทวีตของเราได้เป็น Top Tweet ของแคมเปญหรือข่าวนั้นๆ หรือเปล่า
- ตรวจสอบสถิติ Twitter ของตัวเองได้ที่ Twitter Analytics
ข้อดี-ข้อเสียของ TWITTER คืออะไร?
ข้อดีของ Twitter
- รับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร หรือความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในสังคม
- อัปเดตสถานการณ์ต่าง ๆ แบบนาทีต่อนาที กล่าวคือ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่กำลังเป็นประเด็นเด่นของสังคมในเวลานั้น ๆ ผู้ใช้งานก็จะสามารถรับรู้ได้ทันทีผ่านการดูจากฟังก์ชัน Trending หรือแฮชแทกที่กำลังติดเทรนด์ว่าตอนนี้กำลังเกิดอะไรขึ้นอยู่บ้าง
- สามารถแบ่งปันสิ่งที่มีประโยชน์ได้ เช่น ข้อความหรือรายละเอียดต่าง ๆ ที่เรารู้สึกว่าผู้อื่นควรรู้
- สามารถระบายความอึดอัดของตนเองได้ เนื่องจาก Twitter คือแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างมีความฟรีสไตล์ในการที่จะพูดเรื่องส่วนตัวของตนเองมากกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพราะมีจุดประสงค์เพื่อการนั้นมาตั้งแต่เริ่มเปิดตัว
- สามารถแสดงความเห็นของตนเองได้อย่างอิสระ แม้เป็นการพูดคุยกับคนที่เราไม่รู้จักมาก่อนเลยก็ตาม
ข้อเสียของ Twitter
- บางครั้ง การที่ข่าวสารกระจายอย่างรวดเร็วเกินไปก็ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ เพราะการรีทวิตแค่อย่างเดียวก็สามารถทำให้ข่าวสารแพร่ไปไกลโดยที่บางคนอาจไม่ได้ตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วนว่า เนื้อหาในนั้นมีความจริงมากน้อยแค่ไหน
- ทวีตข้อความได้น้อยเกินไป ส่งผลให้บางครั้งรายละเอียดที่ผู้พูดต้องการจะสื่อไม่ครบถ้วน
- ข่าวสารที่ได้รับ บ่อยครั้งก็ไร้เแหล่งที่มา แม้จะเป็นประเด็นเด่น ๆ ของสังคมในขณะนั้น แต่หากบอกว่าเป็นข่าวสารที่มาจาก Twitter ก็อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าเป็นข่าวโคมลอย ไร้น้ำหนัก เพราะใครก็สามารถพูดได้
- ผู้ติดตามอาจเกิดความรำคาญได้ ในกรณีที่มีการรีทวีตบ่อย ๆ หรือมากเกินความพอดี แล้วยังเป็นเรื่องราวซ้ำ ๆ เดิม ๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่
อ่านเพิ่มเติม On Page SEO คืออะไร
เพิ่มยอดติดตาม Twitter โดยวิธีออร์แกนิคไม่ต้องเสียเงินโฆษณา
1. ศึกษา Insight ของกลุ่มลูกค้าเราก่อนทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์
สิ่งแรกที่เราควรทำก่อนที่จะคิดว่าเราจะทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์ดีๆก็คือ การศึกษา Insight ของ Follower แล้วเราจะรู้ Insight ได้อย่างไร วิธีการที่เราขอเสนอแนะมีอยู่ 2 ทางก็คือ
• ทำ Research
วิธีการนี้ก็จะค่อนข้างยากนิดนึงและเป็นวิธีที่ต้องใช้เวลาใช้กำลังคนด้วย เพราะเราต้องลงไปหาข้อมูลตามแหล่งต่างๆ เช่น ลงไปสัมภาษณ์ลูกค้า หรือกลุ่มคนที่ใกล้เคียงลูกค้าเรา เช่น ถ้าเราทำแบรนด์เครื่องสำอาง ก็อาจจะลงไปสัมภาษณ์ผู้หญิงที่รักสวยรักงาม ไปสัมภาษณ์เพื่อที่จะได้รู้ว่า กลุ่มเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าเรา เขาสนใจเรื่องอะไร เป็นคนแบบไหน เพื่อที่เราจะได้สร้างคอนเทนต์ได้ตรงตามความต้องการและเหมาะสมกับพวกเขา
• ดู Twitter Analytics
Twitter ก็มีเครื่องมือที่สามารถดู Insight ของคนติดตามเราได้เหมือน Facebook วิธีการก็คือ ให้เข้าไปตามลิงก์นี้เลย https://analytics.twitter.com จะเป็นหน้าที่เราสามารถดู Insight ของผู้ติดตามเราได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว เช่น ผู้ติดตามเราส่วนใหญ่เป็นเพศอะไร อยู่ประเทศไหน หรือแม้แต่สนใจเรื่องอะไรก็สามารถดูได้ ซึ่งตรงนี้เรามองว่าค่อนข้างมีประโยชน์ เพราะทำให้เรารู้ได้ว่า คอนเทนต์แนวไหนที่ผู้ติดตามให้ความสนใจมากที่สุด แม้บางคนจะบอกว่า ข้อมูลตรงนี้ยังไม่ชัดเจนหรือแน่ชัด 100% แต่เราก็สามารถดูไว้เป็นแนวทางก็ได้ (สนใจ >> บริการรับทำเว็บไซต์ รับออกแบบเว็บไซต์)
2. เล่นตาม Hashtag ที่ติดเทรนด์ในขณะนั้น
นี่เป็นวิธีเบสิคที่จะช่วยดันคอนเทนต์เราสู่โลก Twitter ได้ เพราะฟีเจอร์เด่นในโลก Twitter ก็คือการเล่น Hashtag โดยชาว Twitter มักจะเข้าไปตามอ่านคอนเทนต์ต่างๆ ด้วยการคลิกตาม Hashtag ที่ติดเทรนด์อยู่ในขณะนั้น Hashtag ที่ติดเทรนด์จะสื่อถึงว่า นี่คือประเด็นร้อนแรงที่คนกำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้
ถ้าเราอยากให้คอนเทนต์ถูกมองเห็นด้วย เราก็ควรสร้างคอนเทนต์แล้วติด Hashtag ที่กำลังติดเทรนด์อยู่ในขณะนั้น พอคนคลิกเข้ามา โอกาสที่ผู้คนจะเห็นคอนเทนต์เราก็มีอยู่มาก แต่ข้อควรระวังคือ คุณต้องทำคอนเทนต์ให้เข้ากับ Hashtag นั้น และต้องสร้างคอนเทนต์ให้เข้ากับแบรนด์ของตัวเอง ไม่เช่นนั้นเขาก็จะแค่รีทวีตแบบผ่านไป แต่ยังไม่ Follow เรากลับ หรือยังไม่ยินยอมที่จะเข้ามาทำความรู้จักกับแบรนด์เรา
3. ทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์ให้อ่านเข้าใจง่าย
Twitter มีความแตกต่างจาก Social Media ประเภทอื่นๆ อยู่อย่างหนึ่งก็คือ Timeline หรือหน้าฟีดจะเลื่อนไปเร็วมากๆ ใครที่เล่น Twitter จะรู้เลยว่า การโพสต์ถี่ๆ นั้นเป็นเรื่องปกติใน Twitter แต่ News Feed ที่เลื่อนเร็วนี้ ก็ส่งผลอะไรบางอย่างในการสร้างคอนเทนต์ขึ้นมา
ถ้าเรามาเขียนอะไรที่เข้าใจยาก หรือยาวเกินไป ขอบอกเลยคอนเทนต์เราจะจมและไหลหายไปกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวของ Twitter แน่ๆ ดังนั้นต้องเน้นทำคอนเทนต์แบบย่อยง่าย อ่านแล้วเพลิน หรือตลก โดนใจไปเลย ซึ่งประเภทคอนเทนต์เบาๆ ที่นิยมใช้ก็คือ
- เน้นใช้ภาพในการทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์
จากสถิติแล้ว ภาพและวิดีโอจะดึง Engagement ได้ดีกว่าการพิมพ์ Text อย่างเดียว ดังนั้น ถ้าอยากให้ Tweet เราโดดเด่น เตะตาคนอ่าน ก็ควรจะทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์ออกมาในรูปแบบของรูปภาพ หรือวิดีโอ แต่ส่วนตัวแล้วอยากแนะนำให้ทำเป็นรูปภาพ เพราะน่าจะใช้เวลาทำไม่เยอะทำวิดีโอ และเป็นสื่อที่สื่อสารถึงคนอ่านได้ง่ายตามเทรนด์ในขณะนั้น
- ใช้โพลในการดึงการมีส่วนร่วมการสื่อสาร
จริงๆ ก็ไม่ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ใหม่มากของ Twitter แต่เป็นฟีเจอร์ที่น่าเล่น และน่าจะดึงความสนใจของคนทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์ได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่รู้จะเขียนคอนเทนต์อะไรดี ก็ลองใช้ตัวช่วยนี้เลย สร้างโพลขึ้นมา เรียกให้คนมาแสดงความคิดเห็น คนอ่านก็จะสนุกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความคิดเห็น แถมได้เห็นผลของโพลอีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจ คือ หัวข้อโพลสำรวจที่เป็นคำถามง่ายๆไม่ยากมาก ซึ่งจากการสังเกตการเล่นโพลในโลก Twitter เลยสรุปเทคนิคการเล่นโพลให้ปังออกมาได้ 4 ข้อใหญ่ คือ
- ตั้งหัวข้อ หรือคำถามของโพลแบบเข้าใจง่าย ให้คนอ่านเห็นแล้วเข้าใจทันที ให้คนอ่านรู้สึกว่าเล่นง่าย เล่นได้เลย
- ตั้งหัวข้อให้เข้ากับเทรนด์ Hashtag ที่ดังๆ
- ถามความคิดเห็นของลูกค้าไปเลย เช่น ชอบสินค้าตัวไหนของแบรนด์เรามากที่สุด หรือเมื่อเราถึงทางตัน ไม่รู้จะทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์เกี่ยวกับอะไรดี ก็ถามคนอ่านไปดื้อๆ ได้เลย
- หัวข้อ หรือคำถามแนว Lifestyle ที่ใกล้ตัวคนอ่าน และใกล้กับสินค้าเราด้วย แม้จะเป็นโพลที่ไม่ได้พูดถึงสินค้าของเขาเลย แต่แนวคำถามก็เชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ของเขาที่เกี่ยวกับ “สินค้าหรือบริการ” ส่วนคำถามก็ปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คน
ลักษณะคอนเทนต์ของ Twitter ค่อนข้างมีความแตกต่างจาก Facebook อยู่ พอสมควรเลย Twitter จะเป็นแนว Sharing Platform สิ่งที่คนทำคอนเทนต์คาดหวังไม่ใช่จำนวน Like ที่เยอะที่สุด แต่เป็นการ Retweet ให้คอนเทนต์เราโผล่ไปหน้า News Feed คนอื่น แม้แต่การกด Like โพสต์นั้นก็จะขึ้นในหน้า Timeline เรา และขึ้นใน News Feed ของ Follower โดยอัตโนมัติด้วย เราจะเห็นได้ว่า มันเป็นลักษณะของการแชร์มากกว่า ดังนั้น เวลาเราจะทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์ เราควรเขียนว่า มีอะไรเกิดขึ้น เล่าแบบ “ดูนั่นสิ” แทนการเล่าแบบ “ดูนี่สิ” แทน (อ่านเพิ่มเติม Off-Page SEO คืออะไร)
4. เน้นคอนเทนต์เร็ว ไว ตามกระแส
พฤติกรรมของคนเสพ Twitter ก็คือ นิยมเสพข่าวที่อัพเดทเร็ว ไว บางคนให้เหตุผลว่า ถ้าอยากรู้อะไรก่อน ให้มาสิงที่ Twitter สิ ดังนั้น ถ้าอยากให้คอนเทนต์เราเป็นหนึ่งในทวีตที่ถูกรีทวีตมากที่สุด เราต้องเป็นเจ้าแรกในการรีทวีต อย่างเช่น เคสที่เคยทำ มีข่าวหนึ่งที่กำลังบูมมาก เราเองก็ตรวจดูไทม์ไลน์แล้วยังไม่มีใครเอามาเขียน เลยจัดทวีตก่อนใครเพื่อน ผลที่ได้คือ คนรีทวีตมากกว่า 1 พันภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
5. ไปเมนต์ตอบกลับ Account อื่นบ้าง
อย่าคิดแต่วิธี One Way Communication หรือคิดว่าตัวเองเป็นสื่อที่คอยส่งสารอย่างเดียว การจะทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์ให้ Success เราต้องทำเสมือนว่า Account เราเป็นคนเล่นอยู่ ทำเหมือนกับว่าเป็นคนที่มีชีวิตจริงๆ เล่น และสิ่งหนึ่งที่คนทำกันก็คือการพูดคุย ตัวอย่างก็เช่น เวลามีคนมา Reply Tweet เรา เราก็ควรเข้าไปตอบลูกค้า
คอนเทนต์ใน Twitter เช่นกัน ถ้าเราเข้าไปพูดคุยสื่อสารกับแบรนด์อื่นบ้างก็น่าจะสร้างสีสันขึ้นมาได้เหมือนกัน และเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่ทำให้ Account เราเป็นที่รู้จักด้วย แต่ก็มีข้อควรระวังว่า เวลาไป Reply ก็ต้องดูด้วยว่าเป็นประเด็นที่ซีเรียสหรือเปล่า และพยายามใช้คำพูดที่ซอฟต์ๆ เพราะหากพิมพ์อะไรไม่ระวัง อาจเกิดเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาก็ได้ ส่วนตัวก็มองว่ามันก็ยังเป็นวิธีที่เหมือนเป็นดาบสองคม ถ้าอยากใช้ก็ต้องระมัดระวังให้ดีเลยล่ะ (อ่านเพิ่มเติม การทำ SEO ให้ติดอันดับ)
เทคนิคเพิ่มเติมวิธีเพิ่ม Engagement และ Follower ของทวิตเตอร์
1. การเลือกโพสต์ให้ถูกเวลา
การโพสต์คอนเทนต์ Twitter ก็คล้ายๆ กับ Facebook เราต้องโพสต์ให้ถูกเวลาด้วย ตามที่งานวิจัย Global Web Index, Nielsen & IAB, Digital Ratings + Nielsen Twitter Consumer Survey เผยว่า ช่วงเวลาที่คนเล่น Twitter มากที่สุดคือ ช่วง 2 ทุ่มถึงเที่ยงคืนของทุกวัน (อ่านเพิ่มเติม Youtube SEO)
2. ลองเปลี่ยนคาแร็กเตอร์แบรนด์ให้เป็นคนที่มีชีวิต
สื่อ Twitter จะมีความสนุกสนานมากกว่า การสร้างคอนเทนต์ให้ถึงใจคนอ่าน เราก็ควรมีสีสัน ใส่ความเป็นมนุษย์ลงไปให้มากขึ้น ซึ่งวิธีการที่จะทำให้แบรนด์เราดูมีชีวิต สดใส เป็นกันเองก็มีหลายวิธีด้วยกัน (สนใจ >> บริการรับทำเว็บไซต์ WordPress)
- ใช้ภาษาเดียวกับกลุ่มเป้าหมาย
เราคงได้ยินมาบอกว่า การเขียน Online Content ต้องใช้ภาษาให้มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ตีโจทย์ภาษาที่มีความเป็นมนุษย์อย่างเดียวแล้ว แต่เราต้องใช้ภาษาให้เหมือนมนุษย์ที่เขาเป็นกลุ่มเป้าหมายเราด้วย เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นพวกเดียวกัน สื่อสารได้รู้เรื่อง
อย่างเช่น ถ้าคุณทำแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น เช่น ทำหนังสือนิยายวัยรุ่น ขายเสื้อผ้าวัยรุ่น หรือแม้แต่สถาบันกวดวิชา เราจะมาใช้ภาษาที่ดูเป็นทางการ ภาษาที่ผู้ใหญ่ใช้พูดกัน กลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กวัยรุ่นก็คงไม่อิน และเขาจะเข้าไปไม่ถึงแบรนด์เรา ดังนั้น ทุกคอนเทนต์ควรใช้ภาษาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย มีความเป็นกันเอง ใช้ภาษาเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความจะใช้ภาษาไทยแบบผิดๆนะ ใช้ภาษาให้เข้าใจง่ายมากขึ้น แต่ต้องให้ถูกตามหลักภาษาไทยด้วย
- ลองใช้คาแร็กเตอร์การ์ตูนเข้ามาช่วย
วิธีการนี้ก็เป็นวิธีที่ถูกพูดถึงมาเป็นเวลานาน แต่ก็ต้องดูด้วยว่า แบรนด์เราเหมาะกับการเปลี่ยนมาใช้คาแร็กเตอร์การ์ตูนหรือเปล่า ถ้าเราอยากให้แบรนด์เราเข้าถึงคนได้ง่าย เป็นแบรนด์ที่เน้นความเอนเตอร์เทนเมนต์ก็ใช้วิธีนี้ได้อยู่
เราก็เริ่มจากสร้างคาแร็กเตอร์การ์ตูนขึ้นมาเลย เป็นการ์ตูนตัวหนึ่งที่เราจะให้เป็นตัวแทนแบรนด์นี้ แล้วเวลาจะทวีตอะไร ก็ให้ทำเหมือนกับว่าตัวการ์ตูนตัวนี้กำลังพูดคุยกับ Follower เราอยู่ การ์ตูนก็จะช่วยทำให้แบรนด์เราดูเป็นกันเองมากยิ่งขึ้น หรืออีกวิธีหนึ่งก็คือ การสร้างมาสคอตประจำแบรนด์ขึ้นมา แล้วให้แบรนด์เล่าถึง Story ของมาสคอตตัวนี้แทน
3. สร้าง Hashtag ที่เป็นของตัวเอง
พอเราตาม Hashtag ของกระแสแล้ว สิ่งที่ควรทำก็คือ ควรสร้างกระแส Hashtag ของตัวเองขึ้นมาบ้าง ถ้า Hashtag แบรนด์เราติดอันดับต้นๆ ของเทรนด์ ใครๆ ก็เข้ามาติด Hashtag นี้ แน่นอนว่า แบรนด์เราต้องถูกมองเห็นเยอะขึ้นในโลก Twitter แน่นอน แต่ปัญหาคือ การทำ Hashtag ของตัวเองให้เป็นกระแสนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย นอกเสียจากว่า เราจะซื้อ Ads Twitter หรือคิดชื่อ Hashtag เจ๋งๆ ให้คนอยากเข้ามาเล่นเยอะๆ
4. คิด Keyword
ถ้าการทำ Hashtag เป็นเรื่องที่ยากไป เราอาจจะเริ่มต้นที่ Keyword ก็ได้ เรื่องของ Keyword ไม่ได้มีแค่ในบทความ SEO เท่านั้น แต่ยังใช้ได้ใน Twitter ด้วย หากเราเล่น Twitter เราจะสังเกตเห็นช่อง Search ช่องนั้นสามารถเสิร์ชหาได้ทุกอย่างแม้แต่โพสต์ Tweet ที่มีคำๆ นั้นอยู่ (อ่านเพิ่มเติม SEO Keyword คืออะไร)
ถ้าอยากให้คนเสิร์ชเจอ เราก็ต้องคิดว่า คำว่าอะไรที่คนน่าจะเสิร์ช หรืออาจจะไปดูแบรนด์ป็อปๆ ใน Twitter ก็ได้ว่า ตอนนี้เขากำลังพูดเรื่องอะไร เราก็ทำคอนเทนต์ทวิตเตอร์ให้มีคำดังกล่าวอยู่ในทวีต ก็ช่วยให้คอนเทนต์ถูกค้นพบได้ง่ายขึ้นแล้ว
อ่านเพิ่มเติม Instagram SEO
สรุป
Twitter ก็เป็นอีกหนึ่ง Social Media ที่สามารถทำ Twitter SEO หรือ Twitter โดยการทำ backlink twitter ส่งมายังเว็บเพื่อเพิ่มอันดับใน google ได้ แต่ก็ยังมีความยากและท้าทายอยู่มาก แม้ Twitter จะนำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบสั้นๆ แต่ก็ใช้เวลาในการสร้างไม่น้อยเลย เพราะเพื่อที่จะโดดเด่นขึ้นมาให้ได้ ต้องใช้พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์มากๆ ลองใช้เทคนิคดังที่กล่าวมาข้างต้นทดลองปรับคอนเทนต์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอสไตล์ที่ใช่ เหล่าผู้ติดตามก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นตามระยะเวลา
Twitter หรือ ทวิตเตอร์ คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม แต่ก็เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากทำให้ได้รับข่าวสารไวกว่าช่องทางอื่น ๆ โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นที่ต้องการทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ ที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกันทางอินเทอร์เน็ต ยิ่งไปกว่านั้น Twitter ยังเป็นแพลตฟอร์มที่แบรนด์ต่าง ๆ เลือกใช้ในการทำการตลาดอีกด้วย เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีกลุ่มเป้าหมายแตกต่างและมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่าแพลตฟอร์มทั่วไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ควรระมัดระวังจากการใช้งาน Twitter คือ ต้องตรวจสอบข่าวสารที่ได้รับอย่างรอบคอบก่อนเผยแพร่ต่อเสมอ เพราะการที่เรื่องราวแพร่กระจายไวเกินไป อาจก่อให้เกิดเฟกนิวส์ (Fake News) หรือความเข้าใจผิดได้ โดยอาจเลือกติดตามข่าวสารเฉพาะจากบัญชีทางการของสำนักข่าวที่เชื่อถือได้มากกว่าบัญชีของผู้ใช้งานปกติทั่วไป เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงมากที่สุด