ถูกยกเว้นโดยแท็ก Noindex มีวิธีการทำยังไง มีกี่แบบกี่ประเภทกันนะ แนะนำด้วยการเขียนโค้ด และสร้างโดยPlugin YOASTสำหรับWordpress เพื่อลดหน้าไม่มีคุณภาพดันอันดับแรงก์ เราอธิบายครบจบในที่เดียว ควรทำตอนไหน แล้วถ้าเว็บไซต์ที่ต้องการให้เก็บข้อมูลเกิดไม่ index ทำยังไง มาติดตามกัน
สิ่งที่เราควรจะทำเพื่อให้ติดอันดับบน Google คือการส่งข้อมูลให้บอทของกูเกิ้ลมาเก็บข้อมูลมากๆ แต่เช่นเดียวกัน ถ้าเราส่งเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพไปให้บันทึกข้อมูลมากๆก็จะกลายเป็นว่าเว็บเราไม่มีคุณภาพ ดังนั้นเราควรรู้วิธีการทำ Noindex ไว้บ้าง
Noindex คืออะไร
Noindex คือ ชุดคำสั่งของโปรแกรมที่ใช้ในการแจ้งห้ามเก็บข้อมูลเพื่อแสดงผลของเครื่องมือค้นหา (search engine) เช่น Google เมื่อเว็บมีการทำ Noindex หน้าเว็บไซต์นั้น จะไม่ถูกจัดทำดัชนีหรือจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลของ Google สิ่งนี้ทำเพื่อป้องกันไม่ให้เว็บไซต์ปรากฏในหน้าผลการค้นหานั้นเอง (สนใจกด >> รับทำ SEO)
Noindex มีกี่แบบ
การทำ Noindex มีประโยชน์กับการทำSEOในบางกรณี โดยเราได้แบ่งประเภทของ Noindex เอาไว้ 3 แบบ คือ
1. Noindex ทั้งเว็บ
การทำ Noindex ทั้งเว็บ เรามักจะเอาไว้ใช้สำหรับตอนเริ่มต้นสร้างเว็บใหม่ ที่เนื้อหาต่างๆ บนเว็บยังไม่เรียบร้อย ยังไม่พร้อมให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูล หรือยังไม่พร้อมเผยแพร่สู่สาธารณะ
ถ้าเว็บที่สร้างใหม่ อย่าพึ่งปล่อยให้ Google มาเก็บข้อมูลทันที คุณควรวางแผนโครงสร้างหน้าเว็บ และเลือก keyword ที่สำคัญของธุรกิจของคุณเตรียมไว้ก่อน การรู้จังหวะว่า เนื้อหาไหนควรทำก่อน ควรทำทีหลัง มีผลต่อการทำ SEO บนเว็บของเราด้วย
เพราะถ้าเราใจร้อนรีบทำเนื้อหา โดยที่ไม่ได้วางแผนให้ดีแต่แรก อาจส่งผลให้ Google index เว็บผิดหน้าได้ หน้าที่เราอยากให้ติดอันดับ กลับไม่ติดอันดับ เพราะ Google ไปจับหน้าอื่นไปก่อนแล้วนั้นเอง
วิธีทำ Noindex ทั้งเว็บ บน WordPress
สำหรับคนที่ใช้ WordPress ในการสร้างเว็บ การทำ Noindex ทั้งเว็บนั้น ทำได้ง่ายมาก เพราะตัว WordPress เองมีฟังก์ชั่นนี้เตรียมไว้ให้แล้ว
- เข้าไปที่หลังบ้านเว็บ WordPress ดูที่เมนู Settings คลิก reading
- ดูที่คำว่า Search engine visibility แล้วกดเปิดใช้งานที่ช่อง Discourage search engines from indexing this site
Search engine visibility คือ การกำหนดว่าเว็บนี้ ต้องการเปิดให้เครื่องมือค้นหาเข้ามาเก็บข้อมูลหรือไม่
แต่สิ่งที่ควรระวัง เมื่อคุณทำเว็บเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเอากดถูกในช่องนี้ออกด้วยนะ
2. Noindex บางหน้า
เหตุผลการเลือกทำ noidex บางหน้า คือ ไม่ต้องการให้หน้าไม่มีคุณภาพเก็บในฐานข้อมูลของ search engine ซึ่งจะส่งให้ภาพรวมของข้อมูลเว็บกลายเป็นหน้าไม่มีคุณภาพน้อยลง ส่งผลให้คะแนน SEO ภาพรวมของเว็บลดลง โดยหน้าที่ไม่มีคุณภาพเป็นหน้าที่ไม่ได้ปรับ Onpage SEO หรือ หน้าที่ไม่สำคัญ หรือ หน้าที่มีบทความซ้ำซ้อนกับหน้าอื่นๆ
หน้าที่ควรทำ Noindex
- หน้าที่เราคัดลอกเนื้อหาจากเว็บคนอื่นมา
- หน้า cart และ หน้า checkout
- หน้า Author
- หน้า tag
- หน้าข้อตกลงและเงื่อนไข
- หน้าแจ้งชำระเงิน
สำหรับการเลือกทำ Noindex บางหน้า คุณต้องทำผ่านปลั๊กอิน SEO ต่างๆ เช่นปลั๊กอิน Yoast, Rankmath เป็นต้น
วิธีการทำ Noindex บางหน้า
แนะนำวิธีการทำ Noindex บางหน้า ดังนี้
- ไปที่หน้าที่เราต้องการจะทำ Noindex
- จากนั้นไปที่แก้ไขหน้า page/post แล้วดู function ของ ปลั๊กอิน SEO ที่เราใช้ โดย
- ถ้าเป็น Yoast ไปที่หัวข้อ Advance จากนั้นไปที่หัวข้อ Allow search engines to show this Post in search results? แล้วเลือก No นั่นคือ ไม่อนุญาตให้ Bot ของ Search engine มาเก็บข้อมูลหน้านี้
- ถ้าเป็น Rankmath ก็ใช้วิธีการแบบเดียวกัน คือเปิดหน้าเว็บที่ต้องการทำ Noindex จากนั้นให้กดแก้ไขหน้านั้น จากนั้นหาฟังก์ชัน Advance แล้วคลิ๊กที่ Noindex
3. Noindex nofollow
การที่เราเพิ่มการคำสั่งการทำ Nofollow เพื่อบอก Search Engine ว่าลิงก์บนหน้าเว็บไซต์นั้นไม่ควรติดตาม (Follow) เพื่อไม่ให้ลิงก์นั้นมีผลต่อการจัดอันดับ สำหรับเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์ไปหา
การใช้ Noindex nofollow เป็นสิ่งที่มักใช้ เมื่อเราต้องการป้องกันการโพสต์ลิงก์ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือไม่ได้รับอนุญาต (สนใจกด >> รับสอน SEO)
Noindex nofollow จะใช้บ่อยในหน้าเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหลักของเว็บไซต์หรือเนื้อหาที่ไม่สร้างคุณประโยชน์แก่ผู้เข้าชมเว็บไซต์นั้นๆ
อ้างอิงจาก :
https://developers.google.com/search/docs/crawling-indexing/block-indexing?hl=th
สาเหตุของการทำ Noindex
- 1. Noindex เพื่อให้คะแนนSEOดีขึ้น ส่งผลให้อันดับของแต่ละ keyword สูงขึ้น
Noindex ใช้บอก Search Engine ว่าหน้าเว็บไซต์นั้นไม่ควรถูกเก็บเข้าคลังข้อมูล (Index) เพื่อไม่ให้ปรากฏในผลการค้นหา เพราะเนื้อหาไม่ดี เนื่องจากการจัดอันดับเว็บไซต์ในแต่ละคีย์เวิร์ด(keyword) เกณฑ์นึงคือต้องมีหน้าที่ถูกindexเป็นหน้าดีมากกว่าหน้าไม่ดี ยิ่งมากกว่ามากเท่าไรยิ่งดี
- 2. Noindex เพื่อเอาข้อมูลแย่ๆออกจากหน้าผลการค้นหาSERP
การเอาหน้า url ที่เคยแสดงผลบนหน้าค้นหา Google ให้หายไปจากผลการค้นหาไปเลยเพราะบางครั้ง เราอาจจะมีการทำข้อมูลผิดพลาด แล้วข้อมูลทีเราทำก็ให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น จะด้วยความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม
เพื่อป้องกันความเสียหายลุกลาม วิธีการดีที่สุดในการแก้ปัญหาแบบเร่งด่วน คือ การแจ้ง Google ให้เอาหน้านั้นออกจากหน้าผลการค้นหาชั่วคราวก่อน
โดยเราสามารถใช้เวลาประมาณ 1 วันในการเอาหน้าที่เคยแสดงผลออกจาก Google ได้แบบเร็วที่สุด (สนใจกด >> รับดูแลเว็บไซต์ wordpress)
- คัดลอก URL หน้าเว็บที่เราต้องการเอาออกจาก Google
- ไปที่ Google search console ดูที่เมนู การนำออก
- คลิกไปที่คำขอใหม่ ใส่ URL ที่ต้องการนำออกลงไป
- คลิกถัดไป แล้วเจอกล่องข้อความเพื่อเตือนเราอีกครั้ง หน้า url นี้ จะถูกบล็อกจาก Google search เป็นเวลา 6 เดือน
- ถ้าเช็คทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็กด ส่งคำขอ ได้เลย
วิธีการแก้ไขหน้าเว็บที่ไม่ index
Noindex ในความหมายนี้ คือหน้าเว็บ ที่เราอยากให้ index แต่ Google ไม่ยอมมา index สักที การแสดงผลข้อมูลของหน้านั้นบน Search console จึงขึ้นเป็นค่า Noindex คือ ไม่ถูกจัดทำดัชนี
เหตุผลหลักๆ ของหน้าที่ไม่ถูก index ส่วนใหญ่เกิดจากเนื้อหาที่เราทำนั้นยังไม่ดีพอ คือ เนื้อหาซ้ำกับเว็บตัวเองหน้าอื่น หรือไม่ก็ซ้ำกับเว็บคนอื่น
สำหรับวิธีการแก้ไขหน้าเว็บที่ไม่ index มีวิธีการดังนี้
- เช็คก่อนว่าเอาฟังก์ชั่น Noindex ออกหรือยัง
- ปรับเนื้อหาให้สดใหม่
- ปรับ On page SEO ให้เรียบร้อย
- หาบทความหน้าอื่นๆ ทำลิงก์ส่งมาหา
- นำหน้านั้น ส่งไปขอจัดทำดัชนีใหม่บน Google Search console
ขอให้ท่านอดใจรอเวลาสัก 2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย (สนใจกด >> รับทำเว็บไซต์ รับออกแบบเว็บไซต์)
วิธีทำ Noindex ด้วยการเขียนโค้ด
เราต้องเขียน code ลงใน file HTML ในการทำ Noindex ของหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการทำโดยใช้ tag meta ดังนี้
<meta name=”robot” content=”noindex”>
โดยสามารถใส่โค้ดนี้ไว้ในส่วนหัวของหน้าเว็บไซต์ได้ เพื่อให้ Search Engine รู้ว่าหน้าเว็บไซต์นี้ไม่ควรถูกเก็บเข้าคลังข้อมูล และไม่ควรปรากฏในผลการค้นหา
นอกจาก Noindex ยังมีคำสั่ง nofollow ที่ใช้กับลิงก์ เพื่อบอกให้ Search Engine ไม่ติดตามลิงก์นั้น ๆ โดยใช้โค้ดดังนี้
<a href=”http://example.com” rel=”nofollow”>Link</a>
โดยใส่ rel=”nofollow” ใน tag a ของลิงก์เพื่อบอก Search Engine ว่าไม่ควรติดตามลิงก์นี้ โดยลิงก์นี้จะไม่มีผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ที่ถูกลิงก์ไป
(สนใจกด >> รับทำเว็บไซต์ wordpress)
สรุป
การทำ Noindex จะเป็นประโยชน์ในกรณีท่านยังไม่พร้อมให้ Google Bot มาเก็บข้อมูล หรือ ลดผลกระทบจาก Thin Content ที่เป็นหน้าที่มีคุณภาพต่ำ เมื่อถูกกูเกิ้ลเก็บข้อมูลไปแล้วทำให้ภาพรวมwebsiteโดยรวมคะแนนอันดับต่ำลง เนื่องจากมีข้อมูลเสียมากกว่าดี
แต่การมี Noindex ในหน้าสำคัญกรณีที่เราต้องการให้กูเกิ้ลบอทเก็บข้อมูล(Crawled – Currently Not Index) ก็อาจส่งผลกระทบต่อการจัดทำดัชนีของ Search engine นอกจากนี้อาจทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถค้นหาและเข้าถึงเนื้อหาของเว็บไซต์ได้
Crawled – Currently Not Index คือหลักเกณ์ที่ Google Search Console ได้ระบุในหน้า Coverage ของ Google Algorithm ในการ Crawl ว่า Google เห็นหน้าที่คุณระบุเข้ามาใน Sitemap แล้ว แต่จากการตรวจสอบแล้วนั้น Google ตัดสินใจไม่ Index หน้านั้น
เหตุผลที่เป็นไปได้ที่ทำให้เกิดปัญหานี้มีดังนี้
- คุณภาพ และเนื้อหาต่ำ
- โครงสร้างเว็บไซต์จัดเรียงมาไม่ดี
- Sitemap ที่ระบุในระบบเกิดความสับสน
- เนื้อหามีการ Duplicate
- Index เกิดการล่าช้า
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องพิจารณาการใช้ Noindex อย่างรอบคอบก่อนที่จะนำไปใช้งาน เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจต่อการจัดทำดัชนีของเครื่องมือค้นหาและการเข้าถึงเนื้อหาของผู้ใช้งาน (สนใจกด >> รับทำเว็บไซต์ E-Commerce)