Ubersuggest คืออะไร มีประโยชน์อะไร บทความนี้สอนการติดตั้งวิธีใช้ครบ

อูเบอร์ซักเจส คือ เครื่องมือที่นักการตลาด นักทำSEO รวมถึงผู้ดูแลพัฒนาเว็บไซต์พลาดไม่ได้ การใช้ ubersuggest แบ่งออกได้กี่ส่วน ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้าง คอนเทนต์นี้อัพเดทมาให้ครบ ตั้งแต่การติดตั้ง ubersuggest จนถึงวิธีใช้งาน จนท่านสามารถรับงานได้เองเลย

ก่อนจะเริ่มต้นทำ SEO (Search Engine Optimization) ให้เว็บไซต์ของเรา เจ้าของธุรกิจอย่างเราก็ต้องรู้จักลูกค้า หรือ กลุ่มเป้าหมายว่าพวกเขาเป็นใครใช่ไหมหล่ะ ทำไมพวกเขาถึงจะสนใจสินค้า/บริการของเรา พวกเขาอยากรู้อะไรจากเว็บไซต์เรา แม้กระทั่งเว็บไซต์ของเราช่วยแก้ปัญหากลุ่มเป้าหมายอย่างไรได้บ้าง

ดังนั้นการที่มี keyword จะเป็นตัวช่วยให้กลุ่มเป้าหมายได้ค้นหา คำที่แสดงออกถึงปัญหาต่างๆ ที่พวกเขาต้องการและสนใจ จากนั้นถึงนำไป Search ที่ Google

ซึ่งเป้าหมายของการทำ SEO จริง ๆ แล้วนั้น นอกจากจะทำให้เว็บไซต์ธุรกิจของเราติดอันดับหน้าแรกของ Google ผลลัพธ์จากการติดอันดับนั้นก็คือ การเพิ่มยอดขาย จนมีผู้เข้าชมหลั่งใหลเข้ามา และเพิ่มลูกค้าให้กับธุรกิจของเรา (สนใจกด >> รับทำเว็บไซต์ รับออกแบบเว็บไซต์)

แล้วจะทำอย่างไรให้ หา keyword ที่ดีและถูกจุด เราจึงจะมาแนะนำโปรแกรมดีๆ ใช้งานง่ายๆ ที่จะช่วยตอบโจทย์เจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดมือใหม่ที่กำลังเริ่มต้นหา keyword

หมายเหตุ : การใช้เครื่องมือ Ubersuggest สามารถงานใช้ได้แบบฟรีๆ โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงิน (แต่จำกัดการใช้อยู่ที่ 5 ครั้งต่อวันสำหรับการใช้แบบฟรี)

Ubersuggest คืออะไร?

Ubersuggest คือ โปรแกรมหา Keyword ใช้สำหรับการทำ SEO หรือ คำค้นหาที่ต้องการทราบจำนวนปริมาณการค้นหา ที่ให้บริการโดย Neil Patel มีทั้งตัวที่สามารถใช้งานได้ฟรี และเสียเงิน มีฟีเจอร์การใช้งานอื่นๆ มากมาย อาทิ เช่น Traffic Analyzer, SEO Analyzer เป็นต้น เพื่อช่วยปรับปรุงให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

หมายเหตุ : Ubersuggest อ่านว่า อูเบอร์ซักเจส 

ข้อดีของโปรแกรม Ubersuggest

  1. สามารถใช้งานได้ฟรี และเสิร์ช Keyword ได้ไม่จำกัด
  2. สมัคร Account ง่ายสามารถเชื่อมต่อกับบัญชี e-mail google ได้เลย
  3. เหมาะกับมือใหม่ ใช้งานง่าย
  4. รองรับการค้นหา Keyword ภาษาไทย
  5. สามารถดู Backlink ได้แบบหน้าต่อหน้า และดู Traffic ทั้งหมดของเว็บเราและเว็บคู่แข่งได้
  6. วิเคราะห์คุณภาพ Seo บนเว็บไซต์ของเราได้ พร้อมบอกปัญหาที่เราต้องปรับปรุง

ข้อเสียของโปรแกรม Ubersuggest

  1. การค้นหา Keyword ภาษาไทยบางคำ เมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่นๆ ยังไม่ค่อยแม่นยำเท่าที่ควร
  2. ไม่สามารถดูประวัติการค้นหา Keyword ย้อนหลังได้ และไม่สามารถทำ Keyword lists ที่เราต้องการได้อีกด้วย
  3. เมื่อเราทำseo แล้วต้องการข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมในเชิงลึก Ubersuggest อาจจะยังไม่ครอบคลุมทุกข้อมูลเท่าที่ควร

สามารถเข้าใช้งานโปรแกรม Ubersuggest ได้ที่นี่ กด >> ทดลองใช้งานฟรี

โปรแกรม Ubersuggest ราคาเท่าไหร่

โปรแกรม Ubersuggest แบบฟรีก็มีให้ลองใช้นะ แต่ถ้าอยากใช้งานมากๆและใช้ได้ทุกฟังก์ชั่นนั้นจะมีการเสียค่าบริการอยู่ 2 แบบ คือ

  1. เสียเงินแบบรายเดือน : เริ่มต้นที่ $12USD/month (คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 420บาท/เดือน) โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ Individual($12USD/month) , Business($20USD/month) , Enterprise/Agency($40USD/month)
  2. เสียครั้งเดียวตลอดชีพ : เริ่มต้นที่ $12USD/month (คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 4,600 บาท) โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ Individual($120USD/month) , Business($200USD/month) , Enterprise/Agency($400USD/month)

ดูรายละเอียดราคาเพิ่มเติมที่นี้ กด >> รายละเอียดราคา

หมายเหตุ :

Individual จะใช้ได้ 1 เว็บไซต์

Business จะใช้ได้ 2-7 เว็บไซต์

Enterprise/Agency จะใช้ได้ 8-15 เว็บไซต์

โปรแกรม Ubersuggest แบ่งออกได้กี่ส่วน

การใช้โปรแกรม Ubersuggest แบ่งออกได้ 6 ส่วนหลักๆ ได้แก่

  • Dashboard แสดงภาพรวมเว็บไซต์
  • Site Audit หรือเครื่องมือวิเคราะห์และประเมินคุณภาพเว็บไซต์เพื่อการทำ SEO
  • Keyword research วิเคราะห์คีย์เวิร์ด
  • Traffic Estimation หรือเครื่องมือวิเคราะห์ Traffic
  • ตรวจสอบ Backlink
  • ทำ LAB

1. Dashboard แสดงภาพรวมเว็บไซต์

Dashboard จะเป็นส่วนของภาพรวมของ SEO Performance โดยรวม เช่น

  • Estimate Organic Traffic จะเป็นส่วนที่บอกว่า Organic Traffic โดยรวมในแต่ละเดือนจะอยู่ที่เท่าไหร่ โดยดึงข้อมูลมาจาก Google Analytics
  • Keyword Ranking (อันดับของคีย์เวิร์ด) โดยรวมอยู่อันดับที่เท่าไหร่บ้าง ซึ่งจะแบ่งเป็น Top3, Top10, Top100 และ Not Ranking
  • Estimated Traffic Value เป็นการบอกว่า Traffic ที่เข้ามาในเว็บไซต์มีมูลค่าเท่าไหร่ โดยจะคิดเป็นเงิน $
  • Backlink จะเป็นการบอกว่าได้ Backlink มาเท่าไหร่ ในช่วงเวลาไหน

Rank Tracking

Rank Tracking จะเป็นการรายงานผลของอันดับทั้งในภาพรวมและราย Keyword โดยมีสรุปให้เลยว่ามี Keyword ไหนที่ทำอันดับได้ดีขึ้นหรือแย่ลง

ซึ่งในส่วนด้านบนจะเป็นสรุป Average Position โดยรวมของทั้งเว็บไซต์ว่าอยู่ที่อันดับเฉลี่ยเท่าไหร่ มี Keyword ที่ติดอันดับอยู่บ้าง โดยแบ่งเป็น Top3, Top10, Top100 และ Not Ranking

ส่วนราย Keyword จะมีแสดงว่าแต่ละ Keyword อยู่ใน Position ที่เท่าไหร่ อันดับเปลี่ยนแปลงอย่างไร ไปจนถึงมี Search Volume ในแต่ละ Keyword เท่าไหร่ รวมถึงทำอันดับยากง่ายหรือไม่

SEO Opportunities

SEO Opportunities จะเป็นส่วนที่บอกว่าในแต่ละหน้าเว็บไซต์มีโอกาสทำอันดับใน Keyword อะไรบ้าง เหมาะสำหรับคนที่จะ Optimize หน้าเว็บไซต์เพื่อการทำ SEO

2. Site Audit หรือเครื่องมือวิเคราะห์และประเมินคุณภาพเว็บไซต์เพื่อการทำ SEO

ฟีเจอร์ตัวนี้เป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาก เพราะ Site Audit จะวิเคราะห์เว็บไซต์ในด้าน SEO ให้ ค่อนข้างละเอียด ชี้ปัญหาแบบเพจต่อเพจ และไม่เพียงเท่านั้น อูเบอร์ซักเจส ยังมีคำแนะนำ สำหรับปรับปรุงSEO ให้มีคุณภาพมากขึ้นอีกด้วย

วิธีใช้ Site Audit วิเคราะห์เว็บไซต์

  1. ใส่เว็บโดเมนหรือURLที่ต้องกำรวิเคราะห์คุณภาพ SEO
  2. ใส่ประเทศที่ต้องการดูคุณภาพ SEO ของเว็บโดเมนนั้นๆ
  3. กด “Search”

การอ่านค่า Site Audit บนเว็บไซต์

หน้าตา Data Analysis ของ Ubersuggest นั้นดูง่ายมากๆ มีทั้งบอกคุณภาพว่าดี หรือไม่ดี บอกภาพรวมสุขภาพ SEO ของเว็บไซต์ บอกเลยว่ามีหน้าเพจกี่หน้า ที่ควรแก้ไข ซึ่งทางกล่องด้านขวาก็สรุปมาเลยว่ามีกี่หน้าที่ต้องเร่งแก้ไข (Critical Errors) ควรปรับปรุง (Warnings) และที่แนะนำให้พัฒนาเพิ่มเติม (Recommendation)

โดยเราสามารถคลิก “View All” ไปดูปัญหาพร้อมคำแนะนำแบบหน้าเพจต่อหน้าเพจได้เลยส่วนค่าอื่นๆ ก็ไม่ยาก

  • On-Page SEO Score คือ คะแนนที่ประเมินจากการทำ On-Page SEO ซึ่งเป็นเรื่องการปรับแต่ง Optimize บนหน้าเพจเว็บไซต์
  • Organic Monthly Traffic คือ จำนวน Traffic หรือยอดคนเข้าถึงเว็บไซต์ต่อเดือนแบบ Organic
  • Organic Keywords คือ จำนวน Keyword ที่ติด Rank บนหน้าค้นหา แบบ Organic เหมือนกับใน หน้า Traffic Analyzer
  • Backlinks คือ จำนวนลิงก์ที่เว็บไซต์อื่นๆ ลิงก์กลับมา (Backlink) ซึ่งโปรแกรมทำ SEO ตัวนี้มีฟีเจอร์ ที่ลงลึกไปกว่านั้นอีก

Site audit ยังบอก site speed หรือความเร็วเว็บไซต์แบบแยกออกมาได้อย่างละเอียดเลยว่า บนหน้า Desktop ใช้เวลาโหลดเท่าไร แล้วแบบ Mobile ต้องรอนานแค่ไหน ซึ่งสะดวกมากๆ ครบสุดๆ (สนใจกด >> รับทำเว็บไซต์ wordpress)

สำหรับการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการทำ SEO เพราะเรื่องความเร็วเว็บไซต์ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้ผู้คนอยู่บนหน้าเพจของเราได้นานมากยิ่งขึ้น และส่งผลต่อ Authority เว็บไซต์ และอันดับของการทำ SEO

สรุปหน้าที่ site audit

Site Audit จะเป็นส่วนวัดคุณภาพของเว็บไซต์โดยจะบอกถึงคะแนนของ On-Page SEO ไปจนถึงจำนวน Backlink ที่เว็บไซต์มีให้ แถมสรุปให้ด้วยว่าคะแนนต่างๆ เหล่านี้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือยัง

นอกจากนี้ จะมีการบอกด้วยว่าเว็บไซต์มีปัญหาในด้านไหนบ้างที่ควรแก้ไข เช่น มีหน้าที่ลิงก์พังหรือลิงก์เสีย, หน้าที่ไม่มี Heading 1, หน้าที่เกิดการ Duplicate ต่างๆ เป็นต้น เพื่อให้สามารถเข้าไปแก้ไขหน้าเหล่านั้นได้อย่างทันท่วงที

ส่วนสุดท้ายจะเป็น Site Speed ที่จะบอกว่าเว็บไซต์มีความเร็วที่ดีหรือไม่ ทั้งระยะเวลาที่ใช้ในการโหลด การตอบสนองต่อการใช้งาน และการแสดงผลในด้าน Layout

3. Keyword research วิเคราะห์คีย์เวิร์ด

ข้อมูลที่ อูเบอร์ซํกเจส นำมาแสดง นั้น จะแบ่งเป็น 6 ส่วนด้วยกัน ตามฟังก์ชันการใช้งาน ตามข้อมูลที่แสดง และเราจะมาแนะนำทั้ง 6 feature หลักกันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่นักทำSEOใช้งานบ่อยมากๆ ได้แก่

  • Keyword Overview
  • Keyword Ideas
  • Keyword Visualizations
  • Keyword by Traffic
  • Similar Websites
  • Content Ideas

ซึ่งคำทั้งหมดที่แสดงได้ก็มีดังนี้ ฟีเจอร์เด่นๆ แรกตัวนี้ คือ Keyword research tool ไว้ใช้สำหรับให้เราค้นหา Keyword เพื่อตรวจสอบดูว่าคำหลักที่เราต้องการค้นหามีผู้คนค้นหามากน้อยต่อเดือนแค่ไหน รวมทั้งดูค่ำ KD : Keyword difficulty ว่าการแข่งขันของคำนั้นๆ
สูงหรือไม่

1. เมนู Keyword Overview

วิธีค้นหา Keyword

  1. ใส่ Keyword ที่ต้องการดูข้อมูล
  2. เลือกประเทศ (ภูมิภาค) ที่ต้องการทราบข้อมูลการค้นหาของ Keyword และ กด “Search”

ค่าที่แสดงทั้งหมดบนโปรแกรม มีดังนี้

  • Search Volume คือ จำนวนปริมาณครั้ง ที่คนค้นหา Keyword นี้ต่อเดือน ซึ่งโปรแกรมทำ SEO ตัวนี้ คือ สามารถแสดงค่าจำนวนปริมาณ คนค้นหา Keyword นี้น้อย (Low) หรือมาก (High) เท่าไหร่ ต่อเดือน
  • SEO Difficulty (SD) คือ ค่าที่แสดงอัตราการแข่งขันของ Keyword นี้แบบ Organic (ไม่ใช้ Ad) ยิ่งค่าสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งแข่งขันยาก ซึ่ง Ubersuggest ก็สามารถบอกข้อมูลส่วนนี้ให้เราทราบได้
  • Paid Difficulty คือ อัตราการแข่งขันของคำค้นหา Keyword แบบที่ใช้ Search Ad หรือใช้ในการซื้อโฆษณา ซึ่งโปรแกรมตัวนี้ก็ให้เราได้เห็นข้อมูลส่วนนี้ ให้อีกด้วยว่าง่ายหรือไม่ง่ายในการเลือกใช้ Keyword นี้
  • Cost per click (CPC) คือ ราคา Search Ad โฆษณาที่ต้องจ่ายต่อคลิก ซึ่งโปรแกรม Ubersuggest นี้ก็สามารถ แปลงค่าเงินดอลล่าร์เป็นเงินบาทให้เราทราบได้อีกด้วย เป็นประโยชน์มากๆสำหรับใครที่อยากซื้อ โฆษณา Search Ad
  • Mobile Volume / Desktop Volume กราฟแสดงผล Search Volume ในแต่ละเดือน ซึ่งกราฟจะถูกแบ่งออกมาเป็น 2 เส้น ที่แบ่งระหว่างจำนวนการค้นหาผ่านโทรศัพท์มือถือ ส่วนอีกเส้นหนึ่งก็คือจำนวนการค้นหาผ่านคอมพิวเตอร์
  • Click on Search Result คือ จำนวนการคลิกที่เกิดขึ้น ซึ่ง Ubersuggest จะแบ่งข้อมูลการคลิกออกมาเป็น 3 ส่วนด้วยกันได้แก่ การคลิกบนเว็บไซต์ที่ขึ้นมาจากการใช้ SEO, การคลิกบนเว็บไซต์ที่เกิดขึ้นมาจากการใช้ SEM และ จำนวนของคนที่ไม่คลิก
  • Searchers’ Age Range คือ สัดส่วนของคนที่ทำการค้นหา โดย Ubersuggest จะแบ่งข้อมูลออกมาตามช่วงอายุ

2. เมนู Keyword Ideas

เป็นหน้าฟีเจอร์ที่แสดง Keyword ที่ใกล้เคียงกับ Keyword ที่เราค้นหา เผื่อว่าจะเป็นไอเดียให้เราสามารถเลือกใช้คำอื่นๆ(หรือ Keywordอื่นๆ) หากคำที่เราตั้งใจจะเลือกมาทำSEO มีค่า SD สูงเกินไป หรือ Keyword คำอื่นจะเหมาะกับการทำ SEO ของเรามากกว่า (สนใจกด >> สอนทำเว็บไซต์ wordpress)

นอกจากนี้ ในตารางด้านขวาจะแสดงตำแหน่ง SERP (Search Engine Result Page) หรือตำแหน่งที่คำนั้น ไปปรากฏบนหน้าที่เท่าไหร่ของหน้าค้นหา ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็เหมือน Keyword research tool ทั่วไปที่จัดลำดับเอาไว้ พร้อมแสดงข้อมูลอื่นๆประกอบ ได้แก่ จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ จำนวน Backlink ค่า Domain Score (ความแข็งแกร่งของเว็บไซต์) และยอดแชร์บนโซเชียลมีเดีย

3. เมนู Keyword Visualizations

Keyword Visualizations จะเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้คนทำ SEO มองเห็นความเชื่อมโยงกันของ Related Keyword ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย (แต่น่าเสียดายที่ยังไม่รองรับภาษาไทย) โดยวิธีการใช้งานให้พิมพ์คำ Keyword ที่ต้องการลงไป หลังจากนั้นให้ทำการเลือกภาษา และประเทศ หลังจากนั้นคลิก Search

สำหรับผลลัพธ์ที่เห็นจะเป็นวงล้อ Topic และ Keyword ที่เกี่ยวข้องขึ้นมาให้ โดยแตกจาก Cluster ที่เป็นคำถามซึ่งคนนิยมพิมพ์ค้นหากัน เช่น Can, How, Where, What ฯลฯ

4. เมนู Keyword by Traffic

Keyword by Traffic คือ ฟีเจอร์สำหรับค้นหา Keyword จากโดเมนเว็บไซต์ มีประโยชน์ในการใช้ส่องดูว่าเว็บไซต์นั้นๆ ใช้ Keyword อะไรบ้าง

ซึ่งในแต่ละหน้าอาจจะติดได้หลาย Keyword ทำให้เห็นว่าในแต่ละหน้าได้ Traffic อยู่ที่เท่าไหร่

5. เมนู Content Ideas

เป็นระบบประมวลหน้าเพจต่างๆ ที่ใช้ Keyword ที่เรานำมาค้นหา เพื่อให้เราลองดูเป็นไอเดียในการคิด Topic คอนเทนต์ ถือว่าฟังก์ชั่น ตัวนี้ดีมากๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีไอเดียหรือแนวทาง แถมยังดูได้อีกด้วยว่ามีการแชร์ออกไป Facebook หรือ Pinterest จำนวนเท่าไหร่

ช่วยให้เราพอเดาได้ว่าผู้คนชอบหัวข้อแนวไหน นอกจากนี้ เรายังสามารถ คลิกดูได้ว่า บนหน้าเพจนั้นๆ มี Keyword อะไรบ้างที่ดึงคนให้เข้ามายังหน้าเพจนั้นด้วยด้วย ถือว่าเป็นประโยชน์สุดๆ ตรงนี้อยากให้ลองไปใช้กัน

6. เมนู  Similar Website

Similar Website จะเป็นส่วนของการวิเคราะห์ว่าเว็บไซต์ไหนที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันกับคุณที่มี Keyword ใกล้เคียงกัน โดยจะบอกว่าแต่ละเว็บไซต์ใช้ Keyword อะไรบ้าง พร้อมมีบอกจำนวน Traffic และ Backlink ให้ครบ เพื่อให้คุณสามารถหยิบ Keyword เหล่านี้ไปทำอันดับต่อได้

4. Traffic Estimation หรือเครื่องมือวิเคราะห์ Traffic

Traffic Estimation คือ เครื่องมือที่เราเอาไว้ใช้ดูว่าเว็บไซต์มียอดคนเข้าถึงเท่าไหร่ (ซึ่งยอดนี้ส่งผลต่อ ค่า Authority ของเว็บไซต์ที่ทำให้เว็บไซต์เรามีพลังในการทำ SEO แข็งแกร่งขึ้น) (สนใจกด >> รับทำเว็บไซต์ E-Commerce)

Traffic Estimatetion จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

1. Traffic Overview

Traffic Overview จะเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยบอกว่าเว็บไซต์ที่ทำการค้นหานั้นมี Traffic โดยรวมอยู่ที่เท่าไหร่ มีติด Keyword รวมแล้วอยู่ที่เท่าไหร่ มี Domain Authority เท่าไหร่ รวมถึงมี Backlink จำนวนเท่าไหร่ด้วย ซึ่งจะแสดงผลออกมาทั้งในรูปแบบของตัวเลขและกราฟเฉลี่ยในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

2. Top pages by traffic

a. SEO Keyword Ranking

อูเบอร์ซักเจสมีการสรุป SEO Keyword Ranking ให้ด้วยว่าในแต่ละเดือนเว็บไซต์ติดอันดับ Keyword ในอันดับใดบ้าง โดยจะเฉลี่ยให้ดูเป็นรายเดือนในรูปแบบของกราฟแท่ง

b. Top SEO Pages

เป็นฟังก์ชันที่บอกด้วยว่าหน้าไหนคือ Top SEO Pages ของเว็บไซต์ขึ้นมาให้ โดยสรุปจากยอด Visits ที่คนเข้าเว็บไซต์แบบเฉลี่ยมาให้

c. SEO Keywords

SEO Keywords จะเป็นการสรุป Keyword มาให้ว่าเว็บไซต์นั้นๆ ติด Keyword อะไรบ้าง ได้ Volume เท่าไหร่ มีคนเข้าชมเท่าไหร่ รวมถึงติด Keyword นั้นๆ ในตำแหน่งอะไรบ้าง

วิธีใช้ Traffic Overview

  1. ใส่ชื่อ Domain หรือURLของเว็บไซต์ที่ต้องการตรวจสอบ Traffic
  2. เลือกประเทศที่ต้องการให้แสดง Traffic ของเว็บไซต์นั้นๆ
  3. กด “Search” และมาอ่านค่ากันเลย

การอ่านค่า Traffic บนเว็บไซต์

การวิเคราะห์โดเมน คือ การค้นหา Keyword จากเว็บคู่แข่ง หรือเว็บที่มีบทความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณขายหรือเว็บที่คุณสนใจ เพื่อที่ว่าเราจะได้เอาคำ Keyword เหล่านั้น มาทำคอนเทนต์บนเว็บของเราบ้าง เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหา Keyword เอง และยังช่วยแก้ปัญหา ของการไม่รู้จะเขียนบทความเรื่องอะไรดีอีกด้วย

เราแนะนำให้คุณลองเอาเว็บคู่แข่ง หรือเว็บที่มีบทความเกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณขาย หรือเว็บที่คุณสนใจ

Traffic Estimation จะแสดงค่าหลักๆ ที่เป็นข้อมูลจำเป็นในการวิเคราะห์และทำ SEO ได้แก่

  • Organic Keyword คือ จำนวน Keyword ที่ติด Rank อันดับ บนหน้าค้นหา แบบ Organic (ไม่ใช้ Ad) และ สังเกตตรงข้อความแนะนำด้านล่าง ตรงนี้ทาง Ubersuggest จะวิเคราะห์ มาว่าอยู่ในระดับใด
  • Organic Monthly Traffic คือ จำนวน Traffic หรือยอดคนเข้าถึงเว็บไซต์ต่อเดือนแบบ Organic คือ ผู้คนเข้ามาเองผ่าน Keyword ที่เว็บไซต์เราใช้ในการทำ SEO นั้นเอง
  • Domain Score คือ ค่าความแข็งแกร่งของเว็บไซต์ซึ่งวัดจากหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้ Authority หรือ ความน่าเชื่อถือ ของเว็บไซต์ในสายตาของ Search Engine สูง คะแนนส่วนนี้เต็ม 100 คะแนน ยิ่งคะแนนเยอะ ก็แสดงถึงเว็บแข็งแกร่งมาก
  • Backlinks คือ จำนวนลิงก์ที่เว็บไซต์อื่นๆ ลิงก์กลับมา (Backlink) ยิ่งมีจำนวน Backlink มากเท่าไหร่ Authority ของเว็บไซต์ก็ยิ่งสูง มีกำลังแข่งขันทำอันดับได้ง่ายขึ้น เป็นเทคนิคการทำ Off-page SEO ที่ได้ผลดีมากๆ
  • ดูแนวโน้มของ Traffic จำนวน Keyword ที่ติด Rank บนหน้าค้นหา แบบ Organic ใน 1 ปี
  • SEO Keyword Ranking แสดงจำนวน Keyword ที่ติด Rank หน้าค้นหา โดยสีเขียว คือ ติดหน้าที่ 1 – 3 สีเหลืองติดหน้า 4 – 10 สีส้มติดหน้า 11 – 50 และสีแดงติดหน้า 51 – 100 ซึ่งเราควรโฟกัสที่สีเขียว
  • Top SEO Pages คือ อันดับหน้าเพจที่ดึงผู้เข้าชม Visit มากที่สุดในkeywordนั้นๆ ซึ่งเราสามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนา หรือเอาไปวิเคราะห์เว็บของคู่แข่งเพื่อแย่ง Traffic ได้
  • SEO Keywords คือ เอาไว้สืบ Keyword ที่ดึง Traffic เข้าเว็บไซต์มากที่สุด โดยบอกเราด้วยว่า Keyword ตัว นี้ของเว็บไซต์ปรากฏอยู่หน้าที่เท่าไหร่ของหน้าค้นหา (Position) ข้อมูลส่วนนี้เราสามารถสืบ Keyword เจ๋งๆ ของเว็บคู่แข่งมาแย่ง Traffic เขาได้เช่นกัน

เราจะเจอข้อมูล Keyword ที่เป็นคำที่เกี่ยวข้อง และบางครั้งเราก็จะเจอ LSI Keyword (คีย์เวิร์ดมีความหมายใกล้เคียง) คำแนะนำของคือ ให้เรานำ Keyword เหล่านั้นไปใส่ประกอบการเขียนบทความของเราด้วยนั้นเอง ซึ่งจะเป็นตัวช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บเรามี Organic Keywords เพิ่มขึ้นด้วยนั้นเอง (สนใจกด >> สอน woocommerce)

จุดเด่นของโปรแกรมหา Keyword ของ Ubersuggest เลยก็ว่าได้ เพราะเราไม่ต้องไปเสียเวลาทำ Keyword research ให้ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนที่หมดมุก ไม่รู้จะเขียนบทความเรื่องอะไรต่อดี เพียงแค่เราเอาเว็บคู่แข่ง โยนเข้าไปที่ Ubersuggest เราจะได้ทั้ง ideas keyword พร้อมทั้งจำนวนค้นหา (Search Volume) มาพร้อมใช้งาน เราก็เก็บ keyword เหล่านั้นมาทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์ของเราได้เลยนั้นเอง

หมายเหตุ : ค่าผลลัพธ์นี้อาจยังไม่ถูกต้อง 100% เมื่อลองไปเอาเปรียบเทียบกับจำนวน traffic ที่แสดงบน Google search console มันจะได้น้อยกว่าเกือบ 3 เท่า หมายความว่า สถิติคนเข้าเว็บที่แสดงบน Ubersuggest ได้เท่าไหร่ ให้คุณคูนด้วย 3 เข้าไป มันถึงจะเป็นสถิติที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริง

5. วิธีใช้feature ตรวจสอบ Backlink

Backlink คือ ลิงค์จากเว็บอื่นๆ ที่ชี้กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา เป็นสิ่งที่บอก Google ให้รู้ว่าเนื้อหาของเว็บไซต์เราได้รับการยอมรับ และมีการทำเป็น reference เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับหน้าเว็บของเรา ส่งผลให้เราได้คะแนน SEO จาก Google มากขึ้นไปด้วย

วิธีใช้ Backlinks Overview วิเคราะห์เว็บไซต์

  1. เลือก tab เมนูด้านซ้ายหัวข้อ Backlinks > Backlinks Overview
  2. ใส่เว็บโดเมนหรือURLที่ต้องการวิเคราะห์คุณภาพ SEO
  3. ใส่ประเทศที่ต้องการดูคุณภาพ SEO ของเว็บโดเมนนั้นๆ
  4. กด “Search”

การอ่านค่า Backlinks Overview บนเว็บไซต์

Source : คือเว็บต้นทางที่ทำลิงค์ส่งกลับมายังเว็บไซต์ของเรา

Target : หน้าเว็บไซต์ของเราที่เขาทำ backlink ส่งกลับมาให้

Google ลดความสำคัญของ Backlink เพราะจำนวนของ Backlink ไม่ได้เป็นตัวบอกว่าเนื้อหาบนเว็บมีคุณภาพดีเสมอไป แต่ Backlink ก็ยังมีความจำเป็นอยู่

แต่ต้องเป็นลิงค์ที่เราได้รับจากเว็บที่มีคุณภาพ และมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ ของเรา และต้องมีความเป็นธรรมชาติด้วยนั้นเอง

ฟังก์ชัน Backlink ของอูเบอร์ซักเจสจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ

a. Backlink Overviews

Backlink Overviews จะบอกเกี่ยวกับคุณภาพการทำ Off-Page SEO ของเว็บไซต์นั้นๆ ว่า ทำได้ดีแค่ไหน โดยบอกรายละเอียดมาให้ ดังนี้

  • Domain Authority : ค่าความน่าเชื่อของเว็บไซต์
  • Referring Domains : เว็บไซต์ที่ลิงก์มายังเว็บที่กำลังถูกพูดถึง
  • Backlinks : จำนวน Backlink ที่เข้ามายังเว็บไซต์

Ubersuggest สามารถทำ Backlink ส่วน Backlink Overviews บอกเกี่ยวกับคุณภาพการทำ Off-Page SEO

ส่วนต่อมาจะเป็น Backlinks Over Time ที่บอกว่าในแต่ละช่วงได้จำนวน Backlink เท่าไหร่ และมี Referring Domains เท่าไหร่

New & Lost Referring Domains จะเป็นส่วนที่บอกว่า เว็บไซต์ของคุณเสียและได้ Referring Domains เท่าไหร่ในแต่ละเดือน

สำหรับ Referring Domains by DA จะเป็นการบอกว่า Referring Domains ที่ส่งมามีเรตของ Authority อยู่ที่เท่าไหร่ และมี Anchor Text ที่เป็น Backlink กลับมาใน Keyword ไหนบ้าง และส่งกลับมาในปริมาณเท่าไหร่

b. Backlink Opportunities

Backlink Opportunities จะเป็นการเปรียบเทียบ Backlink ของเว็บไซต์ 2 เว็บไซต์ โดยให้คุณทำการใส่โดเมนของเว็บไซต์ที่ต้องการเปรียบเทียบ Backlink ลงไปแล้วก็กด Search

หลังจากนั้นจะเห็นว่ามีเว็บไซต์ไหนที่คุณน่าจะนำมาทำ Backlink ให้กับเว็บไซต์ของคุณได้บ้าง และในแต่ละเว็บไซต์มี Domain Authority อยู่ที่เท่าไหร่ด้วย

6. ทำLab

Lab จะมี 2 ฟังก์ชันให้ใช้งานคือ Keywords Generator และ AI Writer โดยมีรายละเอียดการใช้งาน ดังนี้

1. Keywords Generator

Keywords Generator จะใช้ค้นหา Keyword ที่เหมาะสมโดยทำการค้นหา Keyword จากเว็บไซต์ของคุณและคู่แข่ง แล้วจะแสดงผลออกมาเป็น Keyword ที่เหมาะสมกับเว็บไซต์ของคุณให้

ขั้นตอนการทำ Keywords Generator
  1. พิมพ์โดเมนของเว็บไซต์คุณลงไปแล้วกด Next
  2. หน้าต่อมาให้เลือกภาษาและประเทศที่ตั้ง แล้วกด Next ต่อ
  3. ทำการกรอกเว็บไซต์ของคู่แข่งลงไป แล้วกด Next
  4. สุดท้ายจะมี Target Keywords ที่ Algorithm ของ Ubersuggest แนะนำมาให้ ซึ่งคุณสามารถนำมาใช้ได้เลย

2. AI Writer

ฟีเจอร์ที่ชื่อว่า AI Writer ที่จะช่วยนำ Keyword มาเขียน Title ให้เป็นไอเดียตัวอย่าง ซึ่งคุณสามารถเลือก Title เหล่านี้ไปเป็นชื่อบทความได้เลย

 

สรุป

Ubersuggest เป็นเครื่องมือทำ SEO ที่มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย รวมๆแล้วฟังก์ชันการใช้งานค่อนข้างครบ เมื่อเทียบกับโปรแกรมอื่นๆ ที่ต้อง เสียเงินซื้อแพลนที่ Advanced มากขึ้น และใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำ SEO แต่จะไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลในการทำ seo เชิงลึกแบบเรียกได้ว่า ขั้นการอัพเดทข้อมูลแบบใหม่ๆ อาจจะยังทำได้ไม่ดีและละเอียดเท่ากับโปรแกรมที่ต้องเสียเงินซื้อแพลนเพิ่ม

ดังนั้น จึงเหมาะกับคนที่เป็นผู้เริ่มต้นมากกว่าครับ แต่โดยรวมคิดว่าตัวฟรี ก็สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุมแล้ว อยากให้ลองไปทดลองเล่นและใช้งานกันก่อนมากกว่าครับ หากเราเริ่มชอบก็ค่อยแพลนหรือเพิ่มฟังก์ชั่นเป็นตัวเสียเงิน ก็ได้ครับ จะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!