อธิบายขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นการทำ Google My Business เข้าสู่ระบบฟรีไม่เสียเงิน ตอบทุกคำถาม เช่น ใช้งานยังไง มีค่าใช้จ่ายไหม ปักหมุดเสียเงินไหม พร้อมการกรอกข้อมูลเพื่อเพิ่มคะแนนSEO ส่งเสริมการดันอันดับแรงก์บนกูเกิ้ล เทคนิคต่างๆในการเชิญชวนลูกค้ามารีวิวร้านให้ดาวเยอะๆ เพิ่มยอดการเข้าชมเว็บไซต์ คลิ๊กอ่านและโทรหาเรา ด้วย กูเกิ้ลมายบิซซิเนส ธุรกิจฉัน
ทำความรู้จักกับ Google Business Profile ตัวช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งาน Google Search และ Google Maps ในระดับท้องถิ่น (Local) ที่ทำการค้นหาสินค้าและบริการอันเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ให้กลายมาเป็นลูกค้าของคุณได้ง่ายขึ้นและสามารถเข้าถึงหน้าร้านของคุณได้ง่ายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา
เวลาคุณค้นหาร้านอาหารบน Google คุณใช้คำค้นหาแบบไหน ค้นหาประเภทร้านอาหาร แล้วตามด้วยชื่อสถานที่แบบนี้รึป่าว “ร้านราเมง บางจาก” จากนั้นก็เลือกเว็บไซต์เพื่อหาร้านอาหารที่คุณต้องการ
คุณรู้หรือไม่ว่า มีคนอีกกลุ่มนึงที่ใช้วิธีการเสิร์ชหาร้านค้าบน Google Map ด้วย เพียงแค่เสิร์ชไปสั้นๆ ว่า “ร้านราเมง” เท่านี้ร้านอาหารญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้ใกล้คนเสิร์ชก็จะโผล่ขึ้นมาบนแผนที่ให้เราเลือกได้ทันที จะดีแค่ไหนถ้าลูกค้าค้นหาคุณเจอบน Google Map ด้วย
ถ้าอยากทำเทคนิคแบบนี้ เรามาทำความรู้จักกับ Google My Business กัน (สนใจกด >> รับทำ SEO)
Google My Business คืออะไร?
Google My Business คือ บริการจาก Google ที่สร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และธุรกิจต่างๆ ในพื้นที่ โดยเราสามารถใส่ข้อมูลของธุรกิจลงในฐานข้อมูลของ Google ได้ เมื่อมีคนเสิร์ชหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับร้านค้า หรือธุรกิจของเรา ข้อมูลก็จะแสดงขึ้นบน Google Search และ Google Map
โดยจุดเด่นของบริการนี้คือ เมื่อมีคนเสิร์ชหาร้านค้า หรือบริการบน Google Map หากร้านค้าของคุณอยู่ใกล้เคียง หรืออยู่ในพื้นที่ที่ลูกค้าเลือกเสิร์ช ข้อมูลธุรกิจของคุณก็จะถูกแสดงขึ้นมา เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงร้านค้าของคุณได้
Google Business Profile คืออะไร?
Google Business Profile คือ โปรไฟล์สำหรับร้านและธุรกิจ ที่จะแสดงผลบนหน้าผลการค้นหา (SERP) ของ Google Search และ Google Maps เพื่อแสดงตำแหน่งหน้าร้านหรือสถานที่ตั้ง สำหรับให้บริการของร้านและธุรกิจน้อยใหญ่ ในบริเวณที่คุณค้นหา สินค้า ร้านค้า หรือบริการต่างๆ
หมายเหตุ : Google My Business และ Google Business Profile คืออย่างเดียวกันนั่นเอง
ทำไมคุณจึงควรสมัครใช้ Google My Business?
ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่ Google Business Profile จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น คุณสามารถอัพเดทรายละเอียดต่างๆ ของธุรกิจ ลงใน GMB เพื่อโปรโมทธุรกิจของคุณได้อีกช่องทางหนึ่ง อย่างเช่น
- รูปภาพ
- ตำแหน่งร้านค้า
- เวลาเปิด-ปิดทำการ
- ข่าวสารโปรโมชั่น หรือกิจกรรมในช่วงเวลานั้นของธุรกิจของคุณ
อีกหนึ่งส่วนที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือ “คะแนนรีวิว” หากธุรกิจของคุณได้คะแนนรีวิวที่ดีจากลูกค้า (ได้ 4-5 ดาวอย่างต่อเนื่อง) ก็จะช่วยให้ลูกค้าใหม่ๆ ตัดสินใจเลือกใช้บริการ ของคุณได้ง่ายขึ้น และมากยิ่งขึ้น
GMB/GBP มีประโยชน์ต่างๆที่คุณจะได้รับ ได้แก่
- ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงธุรกิจคุณง่ายขึ้น
- ช่วยให้ลูกค้าค้นพบผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ รวมทั้งรูปภาพต่างๆ
- ช่วยแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับร้าน เช่น เวลาเปิด-ปิด เบอร์โทร เพื่อให้มีการติดต่อง่ายขึ้น
- ช่วยแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับ Promotion หรือ Event ณ ขณะนั้นได้ (มาใหม่)
- ช่วยบอกตำแหน่งที่ตั้งร้านค้าของคุณ ใส่ได้ทุกสาขาที่คุณมี
- ข้อมูลธุรกิจของคุณจะปรากฏใน Google Search, Google Maps และ Google+
- ข้อมูลธุรกิจของคุณจะมีความน่าเชื่อถือขึ้นถึง 2 เท่า หากได้รับการยืนยันบน Google
- ช่วยรวบรวมรีวิวลูกค้าและโต้ตอบกับลูกค้าได้
- ช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่
- สามารถโฆษณาผ่าน AdWords Express เพื่อเพิ่มจำนวนคนเข้าชมได้ฟรี
- ช่วยสร้างความดูเป็นมืออาชีพให้กับร้านหรือธุรกิจของคุณบนโลกอินเทอร์เน็ต
- ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นพบหน้าร้านหรือธุรกิจของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้น ในระดับท้องถิ่น
- เพิ่มโอกาสในการขายหรือให้บริการลูกค้าในพื้นที่บริการ ได้อย่างยอดเยี่ยม
- เก็บข้อมูลสถิติ พฤติกรรมของผู้ใช้งาน นำมาปรับใช้ เพื่อให้ร้านหรือบริษัทของคุณสามารถดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ โปรไฟล์ Google Business Profile ยังมีความสำคัญอย่างมาก ในการ ช่วยอ้างอิงข้อมูลที่ถูกต้องของตำแหน่งที่ตั้งร้านหรือธุรกิจ (Business Address) แสดงให้เห็นว่าร้านหรือบริษัทของคุณมีอยู่จริง (สนใจกด >> รับสอน SEO)
ทำไมร้านของคุณควรมี Google Business Profile?
ถ้าคุณสงสัยว่า Google My Business (GMB) จำเป็นกับร้านคุณหรือไม่ ถ้าคุณมีเพจ Facebook หรือเว็บไซต์ร้านของคุณอยู่แล้ว ต้องบอกว่ายิ่งไม่ควรพลาด เพราะนอกเหนือจาก Platform ยอดฮิตอย่าง Facebook, Instagram หรือ LINE Official แล้ว การทำโปรไฟล์ ผ่าน GMB ควรเป็นส่วนหนึ่งในการทำแผน Social Media Marketing ของร้านคุณเช่นกัน
จะแตกต่างกัน ตรงที่ข้อมูลร้านจะไปแสดงผลผ่านการค้นหาบน Search Engine ของ Google ที่เรารู้กันดีว่ามีคนใช้เยอะมาก ดังนั้นการสร้างโปรไฟล์บน Google Business Profile(GBP) จะยิ่งเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะเจอร้านคุณได้มากขึ้น และช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าว่าร้านของคุณมีอยู่จริง
อ่านเพิ่มเติม : https://support.google.com/business/answer/6300665?hl=th
ธุรกิจใดที่ควรมี Google Business Profile
คำตอบคือ ทุกธุรกิจ ที่มีหน้าร้านหรือสถานที่ตั้ง ให้คนสามารถเข้ามา ซื้อสินค้า ใช้บริการ หรือติดต่อบริการ และธุรกิจที่ต้องการ เพิ่มร้านใน Google Map รวมถึงคนที่ทำธุรกิจอยู่ที่บ้าน คนที่ทำงานฟรีแลนซ์ ที่อยากโฟกัสการให้บริการในระแวกที่พักของตน สามารถใช้ที่อยู่บ้านหรือที่พักสมัครใช้งานได้เช่นกัน
Google My Business มีประโยชน์อะไรบ้าง
ประโยชน์ที่คุณจะได้รับเพิ่มเติมจากการมี Google My Business หรือ Google Business Profile คือ
1. สามารถอัปเดตข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับธุรกิจได้อย่างที่ต้องการ
นอกจากมีคำอธิบายเกี่ยวกับธุรกิจ URL ที่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของธุรกิจ การบอกเส้นทาง เวลาทำการ และเบอร์ติดต่อแล้ว ใน GMB โปรไฟล์ยังอนุญาตให้คุณใส่รูปภาพ วิดีโอ รวมถึงระบุพื้นที่ให้บริการ และลิงก์สำหรับบริการจองด้วย อีกทั้งคุณยังสามารถทำการอัปเดตข้อมูลผ่านแอป Google My Business บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้จากทุกที่บนโลก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
อัปเดตข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ
นอกจากการเป็นคำตอบของปัญหาหรือคำถามผ่านการ Search แล้ว อีกสิ่งที่ทำให้ Google My Business ทรงพลังมากๆ คือการเป็น Social Media ไปในตัวด้วย
ความหมายคือคุณสามารถโพสต์อัปเดตข่าวสารหรือเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจของคุณใน Google My Business (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการโพสต์บน Google My Business ได้ที่นี่) และคุณยังสามารถแลกเปลี่ยนข้อความกับคนที่ค้นเจอธุรกิจของคุณผ่าน Google ได้อีกด้วย
2. เพิ่มการมีส่วนร่วมและทำให้สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้โดยตรง
คุณสามารถใช้ GMB โพสต์รูปภาพเกี่ยวกับสินค้าและบริการของธุรกิจ รวมถึงข้อเสนอพิเศษและกิจกรรมบนโปรไฟล์ได้เช่นเดียวกับเฟซบุ๊กและแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ และทั้งคุณและลูกค้ายังสามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบผ่านการรีวิวบนหน้าโปรไฟล์ได้โดยตรง
รวมและแสดงรีวิวจากลูกค้าผู้ใช้งาน
Google My Business จะมีส่วนของรีวิวหรือความคิดเห็นของผู้ใช้งานหรือลูกค้า หากธุรกิจของคุณขายสินค้าหรือบริการคุณภาพดี มีบริการที่ถูกใจลูกค้า รีวิวจะมีประโยชน์มากๆ เพราะจะช่วยโฆษณาและเรียกลูกค้าให้คุณเอง
ซึ่งความเห็นของลูกค้าหรือ Social Proof มีอิทธิพลสูงมากต่อการซื้อสินค้าและบริการของลูกค้าคนอื่นๆ ต่อไป
3. รับทราบข้อมูลเชิงลึก
แดชบอร์ดของ GMB ยังวิเคราะห์และให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับผู้เข้าชมและประสิทธิภาพการค้นหาในพื้นที่ที่ธุรกิจของคุณตั้งอยู่ด้วย (Local Search) เช่น คุณจะเห็นคำถามที่ลูกค้าใช้ในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจบนหน้า Google SERPs และ Maps ทราบถึงประสิทธิภาพการทำงานของรูปภาพที่ใช้ ฯลฯ
เรียนรู้ธุรกิจของตัวเอง
เจ้าของธุรกิจสามารถเรียนรู้ข้อมูลที่ได้จาก Google My Business ไว้ใช้ปรับปรุงหรือพัฒนาธุรกิจของคุณต่อไปได้ ข้อมูลที่ว่านั้นก็เช่น
- ยอดวิวโปรไฟล์ รูปภาพ และโพสต์ต่างๆ
- คำค้นที่ลูกค้าค้นจนเจอธุรกิจของคุณ
- ปฏิสัมพันธ์ที่ลูกค้ามีต่อเรา
- ลักษณะลูกค้าหรือคนที่กดดูโปรไฟล์ธุรกิจของคุณ เช่น อายุ เพศ ประเทศ
- จำนวนคนคลิกเว็บไซต์ โทรเข้า ถามเส้นทาง
4. ช่วยดันอันดับในการทำ Local SEO
กูเกิลใช้อัลกอริทึมในการจัดอันดับโปรไฟล์ธุรกิจ (Google Business Listing) ที่นำมาแสดงเช่นเดียวกับที่พวกเขาจัดอันดับโฆษณาและเว็บไซต์ ซึ่งคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดอันดับและสร้างความเข้มแข็งให้กับโปรไฟล์ของธุรกิจในการค้นหาแบบเจาะจงพื้นที่ได้
และสำหรับผลการค้นหาในท้องถิ่นนี้ กูเกิลบอกว่านอกจากจะอิงกับความเกี่ยวข้องในการค้นหา (Relevance) แล้วยังต้องดูเรื่องระยะทาง (Distance) และชื่อเสียงความน่าเชื่อถือของธุรกิจ (Prominence) ด้วย ซึ่งการได้ขึ้นแสดงใน 3 อันดับแรกเมื่อมีการค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดแบบเจาะจงพื้นที่ (Google’s Local SEO 3-Pack) จะส่งผลดีทางอ้อมต่อธุรกิจอีกอย่างคือจะช่วยผลักดันอันดับของเว็บไซต์ของธุรกิจให้ขึ้นไปอยู่อันดับบน ๆ ในหน้าผลการค้นหา (สนใจกด >> รับดูแลเว็บไซต์ wordpress)
เพิ่มความน่าเชื่อถือ
ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับทุกธุรกิจ ถ้าคุณน่าเชื่อถือ ลูกค้าก็จะเชื่อใจและไว้ใจมาซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ Google My Business เองนั้นก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณบริหารความน่าเชื่อถือของธุรกิจของคุณบน Google ด้วยเช่นกัน ฟีเจอร์เหล่านั้นคือ
- Review ที่ช่วยให้คุณบริหารจัดการและตอบกลับรีวิว คำติ คำชม ต่างๆ ที่ลูกค้ามีให้กับคุณ
- Business Profile ที่ช่วยให้คุณสามารถให้ข้อมูลกับลูกค้าของคุณได้ครบถ้วน
- Website ที่ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาอย่างง่ายๆ
Google เป็นอีกหนึ่งในที่แรกๆ ที่คนมักจะมาเจอกับธุรกิจของคุณเพราะฉะนั้นคุณควรใช้ประโยชน์จาก Google My Business ในการบริหารความน่าเชื่อถือของธุรกิจของคุณให้ดี
ข้อดีของการมีโปรไฟล์ใน Google My Business
เป็นเรื่องจริงที่ว่าใครๆก็ค้นหาทุกเรื่องที่อยากรู้ด้วย Google เช่น ฟิตเนสใกล้ฉัน ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านสุขุมวิท สปาและร้านทำผมติดรถไฟฟ้า แน่นอนว่าการมีโปรไฟล์ธุรกิจอยู่บน Google My Business ยิ่งช่วยโปรโมทร้านผ่านช่องทางออนไลน์ได้แบบง่ายๆในเวลาที่ผู้คนค้นหาเกี่ยวกับธุรกิจของคุณโดยไม่ต้องเพิ่มงบค่าโฆษณาให้มากความ อาศัยเพียงข้อมูลที่คุณมีอยู่แล้วและฟีเจอร์ดีๆอีกเพียบที่รอให้คุณได้นำมาใช้ปลุกปั้นกิจการในฝันของคุณให้เป็นจริง
- ฟีเจอร์ปักหมุดที่อยู่ร้าน และให้ข้อมูลเรื่องเวลาทำการ เบอร์โทรติดต่อ ช่องทางติดตาม ไปจนถึงมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ตั้งใจเดินทางมาที่ร้านของคุณ
- ฟีเจอร์แสดงรูปภาพและโลโก้ร้านเพื่อให้ร้านของคุณโดดเด่นเตะตาผู้คน
- ฟีเจอร์ไฮไลต์จุดเด่นและราคา เพื่องัดทีเด็ดของร้านคุณออกมาโชว์ซึ่งๆหน้า ให้ลูกค้าชตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการของคุณได้สะดวกรวดเร็ว
- ฟีเจอร์เพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับร้านของคุณ อย่าง Pet Friendly หรือ LGBTQ+ Friendly เพื่อให้ตัวตนและธุรกิจของคุณเด่นชัดขึ้น
- ฟีเจอร์สร้างโพสต์ ข้อเสนอ และกิจกรรม สร้างฐานลูกค้าประจำให้ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวด้วยอัพเดทเกี่ยวกับโปรโมชั่น สินค้ามาใหม่ ได้แบบเรียลไทม์
- ฟีเจอร์รีวิว ที่คุณจะรับรู้ถึงทุกฟีดแบ็กจากเหล่าลูกค้าของคุณได้โดยตรง พร้อมตอบกลับเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ากลับมาร้านคุณอีกครั้ง
- ฟีเจอร์ข้อมูลเชิงลึก รับรู้คีย์เวิร์ดสำคัญและข้อมูลเชิงหลังบ้านที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโปรไฟล์ธุรกิจ Google My Business ของคุณ และสร้างยอดขายได้ในระยะยาว
ฟีเจอร์อย่าง “ข้อมูล” ทำให้คนรู้จักเกี่ยวกับธุรกิจของคุณมากขึ้น รวมถึงรู้ว่าธุรกิจคุณเปิดปิดในวันหรือเวลาไหนบ้าง
ฟีเจอร์อย่าง “ข้อมูลเชิงลึก” ช่วยให้คุณเข้าใจมากยิ่งขึ้นว่าคนค้นเจอธุรกิจของคุณเจอด้วย Keyword คำไหน และคนเลือกที่จะเข้ามาทำความรู้จักหรือติดต่อกับธุรกิจของคุณบน Google ยังไง (เช่น ผ่านการโทร เข้าเว็บไซต์ หรือขอเส้นทาง เป็นต้น)
การพยายามพาธุรกิจของคุณไปให้คนเห็นในช่วงจังหวะที่เขามีปัญหาหรือมีความต้องการจะช่วยให้คุณเพิ่มยอดขายได้
หลักการใช้งาน Google My Business ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
1. มอง Google My Business เป็นส่วนหนึ่งของการทำ Social Media Marketing
GMB/GBP ไม่ใช่แค่เครื่องมือในการทำให้คนค้นหาธุรกิจของคุณเจอใน Search Engine แต่ให้มองมันเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้คุณปฏิสัมพันธ์และใกล้ชิดกับลูกค้าของคุณมากขึ้น นอกเหนือจาก Platform ยอดฮิตอย่าง Facebook, Instagram หรือ LINE คุณควรที่จะนำเอา Google My Business ไปเป็นส่วนหนึ่งในแผนการทำ Social Media Marketing ของคุณ
ถ้าจะให้ดีสร้างแคมเปญหรือกิจกรรมเฉพาะสำหรับ Google My Business โดยเฉพาะเลยก็ยิ่งดี ตัวอย่างที่เราเคยเจอก็เช่นร้านอาหารที่ทำแคมเปญ ถ้าใครให้คะแนนรีวิวบน Google Business Profile จะได้รับของทานเล่นฟรี เป็นต้น
2. ใช้ Google Search Console มาช่วยทำคอนเทนต์
ถ้าพูดถึงในบริบทของคอนเทนต์ Google Search Console คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเข้าใจว่าคนใช้คำค้นหาคำไหนเพื่อให้เจอกับเว็บไซต์/คอนเทนต์ของคุณ
คุณสามารถนำเอาคำค้นหาที่คนใช้บ่อยๆ มาทำคอนเทนต์ (โพสต์) บน Google Business Profile เพื่อที่คุณจะได้สามารถตอบคำถามหรือปัญหาต่างๆ ที่คนมีเบื้องต้นได้และทำให้เขาใช้ข้อมูลนี้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจที่จะซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ
ถ้าคุณโพสต์คอนเทนต์ผ่าน Google Business Profile เลย แน่นอนว่า Google จะต้องเป็นป๋าดัน ช่วยเอาข้อมูลของคุณไปโชว์ให้คนได้เห็นมากขึ้นแน่ๆ
3. เข้ามาเช็คและอัปเดต Google Business Profile บ่อยๆ
อย่างที่ได้บอกไปว่า Google My Business ไม่ใช่แค่เครื่องมือที่ช่วยให้คนค้นหา แต่ยังช่วยให้คนสามารถปฏิสัมพันธ์กับคุณได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณ Setup Google My Business ไว้อย่างดีแล้ว มีโอกาสที่คนจะเข้ามาปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจของคุณหลังจากที่เขาเสิร์ชเจอ (สนใจกด >> รับทำเว็บไซต์ รับออกแบบเว็บไซต์)
ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่คุณจะได้รับก็คือ “รีวิว” บน Google
ถ้ารีวิวเป็นรีวิวที่ดี การเข้าไปตอบ ไปปฏิสัมพันธ์ จะยิ่งเพิ่มความประทับใจที่ลูกค้ามีต่อคุณ
แต่ถ้ารีวิวนั้นเป็นรีวิวที่ไม่ดี การที่คุณเข้าไปตอบลูกค้าได้อย่างทันท่วงที อาจจะช่วยให้เรื่องร้ายบรรเทาลง หรือเรื่องร้ายกลับกลายเป็นเรื่องดีก็ได้
Google Business Profile เองก็จะคอยส่งอีเมลมาถามหรือมากระตุ้นให้คุณเข้าไปอัปเดตข้อมูลอยู่แล้ว ทำมันให้เป็นกิจวัตรเหมือนที่คุณไปเช็ค Social Media ตัวอื่น
วิธีสมัคร Google My Business Profile
เครื่องมือฟรีสำหรับธุรกิจอย่างGoogle My Business หรือ ที่เรียกสั้นๆว่า GMB ซึ่งเปรียบเสมือน “หน้าร้านออนไลน์” ที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการอำนวยความสะดวกให้กับร้านค้า ธุรกิจ สำหรับการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลของธุรกิจ โดยจะแสดงผลของการค้นหาของ Google search และ Google maps นั้นเอง
การสมัครใช้งาน กูเกิล มาย บิซซิเนส และปรับแต่งโปรไฟล์เบื้องต้น (Desktop Version)
1. เข้าไปที่ กูเกิล มาย บิซซิเนส ประเทศไทย
กด >> https://www.google.co.th/intl/th/business/
2. ลงชื่อเข้าใช้ (Login) ด้วยบัญชีกูเกิลของคุณ (Gmail) หากยังไม่มีก็ให้สมัครก่อน
หากยังไม่มีสามารถสมัครได้ โดยไปที่เว็บไซต์ gmail.com
3. กรอกชื่อร้านหรือบริษัทของคุณ จากนั้น >> กด “ถัดไป”
- ตั้งชื่อธุรกิจหรือร้านค้า
การตั้งชื่อธุรกิจหรือร้านค้าของคุณ แต่นอกจากใส่เพียงแค่ชื่อร้าน หรือชื่อแบรนด์ สิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ารู้จักคุณได้ง่ายขึ้น คือ “คีย์เวิร์ด – Keyword หรือ คำสำคัญในการค้นหา” เพื่อให้คนที่เสิร์ชหรือค้นหารู้ได้ทันทีว่าธุรกิจหรือร้านของคุณทำอะไร
- ไม่ใช่แค่ – markettium
- แต่เป็น – markettium รับทำเว็บไซต์ รับออกแบบเว็บไซต์ รับทำ SEO
4. กรอกข้อมูลที่อยู่ของหน้าร้านหรือที่อยู่บริษัทของคุณ ให้ถูกต้องครบถ้วน
- ช่องที่อยู่ : เลขที่, หมู่ (ถ้ามี), ถนน
- ตำบล/แขวง
- อำเภอ/เขต
- จังหวัด
- รหัสไปรษณีย์
หมายเหตุ : หากธุรกิจของคุณให้บริการแบบไปถึงที่ เช่น ช่างซ่อมแอร์ ช่างประปา บริการส่งของ ต่าง ๆ
ให้ทำการติ๊กที่ช่อง “ฉันจัดส่งสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า” ด้วยนะ สามารถกด ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ ถ้าใครไม่ได้ให้บริการประเภทนี้ >> กด “ถัดไป” (ไปขั้นตอนที่ 5 ได้เลย)
ส่วนคนที่ติ๊ก “ฉันจัดส่งสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า” จะมีช่อง “ซ่อนที่อยู่ของฉัน (ที่อยู่นี้ไม่ใช่หน้าร้าน)” เพิ่มขึ้นมา อันนี้ปล่อยไว้นะไม่ต้องติ๊ก จากนั้น >> กด “ถัดไป”
5. การปักหมุดตำแหน่งที่อยู่
ตรงนี้ต้องแม่นยำ ปักให้ตรงกับที่อยู่จริงแบบเป๊ะๆ เพื่อให้ลูกค้ามาร้านเราได้แบบไม่หลงทาง
- 5.1 ในกรณี Google Maps หาตำแหน่งตามที่อยู่ไม่เจอ (ถ้าเจอข้ามไปข้อ 6 ได้เลย) ตอนสมัครหากใครอยู่ที่ตำแหน่งหน้าร้านหรือตำแหน่งที่ตั้งของบริษัทจริง สามารถกดที่เครื่องหมาย ค้นหาตำแหน่งจาก GPS (รูปเป้า) แล้วกด Allow Location Access ได้เลย ระบบจะหาตำแหน่งตาม GPS ของเรา ที่สามารถปักหมุดได้อย่างเหมาะสมให้เอง (ถ้าหมุดไม่ค่อยตรงก็ขยับเอาเองได้)
ส่วนใครที่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งจริงขณะสมัครคงต้องนั่งหาบนแผนที่เอง จากนั้น >> กด “ถัดไป” (สนใจกด >> รับทำเว็บไซต์ wordpress)
- 5.2 ในกรณีหาเจอ แต่มีชื่อร้านหรือบริษัท อื่น ๆ โผล่มา ให้เลือก “ไม่มีเลย” จากนั้น >> กด “ถัดไป”
เพิ่มพื้นที่ ที่ธุรกิจของคุณให้บริการ : หากเป็นร้านค้าออนไลน์ที่ส่งสินค้าทั่วประเทศ สามารถใส่ข้อมูลเป็นประเทศไทยลงไปได้เลย นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มประเทศอื่นๆ ที่ให้บริการได้อีกด้วย
6. เลือกหมวดหมู่ที่ตรงกับธุรกิจของคุณมากที่สุด จากนั้น >> กด “ถัดไป”
ช่วยให้ลูกค้าค้นพบคุณได้หากพวกเขามองหาธุรกิจที่มีลักษณะเช่นเดียวกันกับของคุณ
7. กรอกข้อมูลติดต่อสำหรับลูกค้า
- กรอกเบอร์โทรติดต่อที่ใช้งานได้จริง : เบอร์ร้าน เบอร์ออฟฟิศ หรือเบอร์มือถือ ก็ได้
- URL เว็บไซต์ร้านหรือบริษัทของคุณ หากไม่มีเว็บไซต์ให้ติ๊ก “ฉันไม่อยากมีเว็บไซต์” หรือถ้าอยากจะสร้างแบบง่ายๆ ติ๊ก “สร้างเว็บไซต์ฟรีตามข้อมูลของคุณ” จากบริการของ Google ก็ได้ จากนั้น >> กด “ถัดไป”
เพิ่มช่องทางการติดต่อ : ใส่เบอร์โทรศัพท์พร้อมกับเว็บไซต์ หากยังไม่มีเว็บไซต์ อาจใช้เป็นลิงก์จาก เฟซบุ๊ก แฟนเพจ – Facebook Fanpage หรือ ลิงก์สำหรับแอด ไลน์ ออฟฟิเชียล แอ็คเคานต์ – Line Official Account แทนได้
8. กดเสร็จสิ้น
9. เลือกวิธียืนยันตัวตนและตำแหน่ง (ยืนยันธุรกิจ) ของหน้าร้านหรือบริษัทของคุณ
แนะนำให้เลือกแบบ “ส่งไปรษณียบัตรทางไปรษณีย์” นะ (อีกอันจะเป็นยืนยันทีหลังไม่แนะนำครับ) จากนั้นกรอก ชื่อที่ติดต่อ เป็นชื่อคุณก็ได้นะ เพื่อให้ง่ายต่อการรับเมื่อไปรษณีย์มาส่ง (Google จะจ่าหน้าซองถึงคุณโดยตรง) จากนั้น >> กด “ส่งจดหมาย”
10. กด “ดำเนินการต่อ” และรอรับ PIN (รหัสยืนยันตัวตนธุรกิจ) ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ (14 วัน)
NOTE: ข้อมูลทั้งหมดที่เรากรอกไปข้างต้น สามารถแก้ไขได้ภายหลังนะ หลังจากยืนยันตัวตนด้วยการกรอก PIN แล้ว (เผื่อในกรณีย้ายที่อยู่ร้านหรือบริษัท)
11. หลังจากนั้นเราจะเด้งเข้ามาที่ หน้าจัดการโปรไฟล์ Google Business Profile ของเรา
1 บัญชี Google สามารถสร้างโปรไฟล์ ได้หลายโปรไฟล์ สำหรับธุรกิจที่มีสาขาเยอะ หรือบริษัทที่มีธุรกิจหลายอย่าง จัดการในบัญชีเดียวได้เลย
ในหน้าจัดการprofileเราสามารถแก้ไข เพิ่มข้อมูลต่าง ๆ ของแต่ละโปรไฟล์ได้ รวมทั้งดูข้อมูล สถิติผู้ใช้งาน พฤติกรรมผู้ใช้ รีวิว และอื่น ๆ ที่ กูเกิล มาย บิซซิเนส สรุปมาให้
ระหว่างรอรับ PIN ค่อนข้างใช้เวลาหลายวัน มาใส่ข้อมูลที่จำเป็น เพิ่มเติมให้โปรไฟล์ร้านหรือบริษัทของคุณกันเถอะ
12. ในหน้าจัดการโปรไฟล์ กดเข้าไปที่ > ข้อมูล
ทำการเพิ่มข้อมูลที่สำคัญ ๆ เช่น
- พื้นที่ให้บริการ (พื้นที่เพิ่มเติมจากที่ตั้ง)
- เวลาทำการ
- เวลาทำการพิเศษ (เช่น วันหยุดนักขัตฤกษ์)
- หมายเลขโทรศัพท์
- ชื่อย่อของข้อมูล (URL แบบสั้น)
- เว็บไซต์ (สามารถใส่ UTM Tracking ได้ เพื่อเก็บสถิติผู้ใช้งานที่เข้าชมเว็บไซต์ ผ่านการคลิกลิงก์เว็บบน กูเกิล มาย บิซซิเนส)
- ลิงก์การนัดหมาย (สำหรับคนที่มีหน้า Contact หรือ Booking บนเว็บไซต์โดยเฉพาะ)
- ผลิตภัณฑ์ (ข้อมูลสินค้าและผลิตภัณฑ์ สำหรับเว็บไซต์ขายสินค้า)
- บริการ (ข้อมูลบริการ สำหรับเว็บไซต์ที่ให้บริการต่าง ๆ)
- ไฮไลต์ (เช่น เจ้าของเป็นผู้หญิง, สินค้าเฉพาะผู้ชาย บลา ๆ อันที่จริงส่วนนี้ ไม่ต้องใส่ก็ได้)
- คำอธิบายธุรกิจ (จุดขายบรรยาย สรรพพคุณครับตรงนี้)
- วันที่เปิด (วันก่อตั้ง)
- รูปภาพ (จะอธิบายในขั้นตอนถัดไป)
13. เพิ่มมีเดียต่าง ๆ ให้ครบถ้วน ได้แก่
- โลโก้
- ภาพปก + ข้อมูลระบุตัวตน (คือภาพเดียวกัน เลือกให้ดีให้เด่น ภาพนี้จะถูกโชว์เป็นภาพตัวอย่างของร้านหรือบริษัทเรา บนหน้าผลการค้นหาและแผนที่)
- วิดีโอ
- ภายใน (ภาพด้านในของร้านหรือบริษัท “ภาพทั่วไป + ภาพ 360 องศา + วิดีโอ” )
- ภายนอก (ภาพด้านนอกของร้านหรือบริษัท “ภาพทั่วไป + ภาพ 360 องศา + วิดีโอ” แนะนำว่าให้มีภาพที่เห็นป้ายหน้าร้านหรือป้ายบริษัทด้วยนะครับ)
- ที่ทำงาน (ภาพการทำงาน การให้บริการ หรือการจัดเตรียมสินค้า จำหน่ายสินค้า)
- ทีม (ภาพของพนักงาน)
14. เมื่อได้รับ PIN แล้ว ให้นำมากรอกเพื่อยืนยันตัวตนธุรกิจและตำแหน่งหน้าร้าน
- 14.1 กรอก PIN
- 14.2 กดยืนยัน
15. ธุรกิจของเราได้รับการยืนยันแล้ว แต่ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพข้อมูลอีกครั้ง ซึ่งอาจใช้เวลาสูงสุด 3 วันก่อนที่จะเผยแพร่ข้อมูลธุรกิจหรือตำแหน่งหน้าร้านบน Google Maps
ศูนย์ช่วยเหลือของ Google My Business
https://support.google.com/business/?hl=th#topic=4539639
คลิปวิดีโอ วิธีการสมัคร กูเกิล มาย บิซซิเนส ผ่านมือถือ จาก Google Thailand
Google My Business ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
ในตอนนี้ กูเกิล มาย บิซซิเนส ถูกเปิดให้ ใช้งานได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆในการสมัคร หรือระหว่างการใช้งาน
(สนใจกด >> รับทำเว็บไซต์ E-Commerce)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Google Business Profile
ข้อสงสัยที่มักเจอเวลาทำ Google My Business
1. ธุรกิจต้องมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งหรือใส่ที่อยู่ไหม?
จำเป็น Google ค่อนข้างให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค แม้จะเป็นธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้าน เช่น หมอนวดรับจ้างตามบ้าน หรือช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ คุณก็จำเป็นต้องใส่ที่อยู่ลงไป
แต่ถึงจะใส่ก็เลือกได้ว่าไม่เปิดเป็นสาธารณะ ทางระบบแค่สร้างเครือข่ายที่ยืนยันได้ว่าคุณมีตัวตนจริงก็พอ
2. ทำธุรกิจหลายอย่าง อยากระบุสถานที่หลายแห่ง จะทำได้ไหม?
ทำได้ ให้คุณดาวน์โหลดเทมเพลตรายชื่อสถานที่ตั้ง ซึ่งจะเป็นไฟล์ excel
พอสร้างตารางรายชื่อเสร็จเรียบร้อย เข้าไปที่ location groups ตรง Add location ให้เลือก Import locations แล้วอัปโหลดไฟล์ที่ตั้งเข้าไปได้เลย
3. ถามตอบลูกค้าบน Google My Business คืออะไร?
Google My Business จะมีส่วนให้ถามตอบกับลูกค้าโดยอัตโนมัติ ลูกค้าหรือใครก็ตามสามารถโพสต์ถามคำถามในนี้ได้
แต่ประเด็นคือ ใครๆ ก็สามารถตอบคำถามที่มีคนถามได้ ดังนั้น คุณที่เป็นเจ้าของธุรกิจจะต้องไว มาตอบคำถามของลูกค้าให้ทันก่อนใครจะชิงตอบ เพื่อให้ไม่พลาดโอกาสตอบข้อสงสัยของลูกค้าและดูแลพวกเขาด้วยในเวลาเดียวกัน
4. ทำยังไงให้ลูกค้าเขียนรีวิวร้านค้าหรือบริษัทให้เรา?
รีวิวลูกค้าช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความน่าสนใจให้กับธุรกิจหรือร้านค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ เรียกได้ว่าเป็นการตลาดที่ได้ผลดีที่สุดและไม่มีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเพิ่มเลย
ซึ่งสิ่งที่ธุรกิจต้องทำคือ มอบสินค้าหรือบริการที่ดีและน่าพึงพอใจให้กับลูกค้าให้มากที่สุด หากไม่เช่นนั้นแล้ว รีวิวจะกลายเป็นดาบที่หันมาทิ่มแทงชื่อเสียงธุรกิจให้เสียหายได้ เราสามารถกระตุ้นให้ลูกค้าเขียนรีวิวได้หลายวิธี เช่น
- ใช้เครื่องมือการตลาดของ Google เอง สร้างโพสต์โซเชียล สติ๊กเกอร์ หรือโปสเตอร์ กระตุ้นให้ลูกค้าเขียนรีวิว
- ส่งอีเมลหาลูกค้าหลังจากนั้น และเขียนชวนให้ลูกค้าเขียนรีวิว โดยแนบลิงค์ให้กดเข้าสู่การเขียนรีวิว (แนะนำให้ย่อลิ้งค์ให้สั้น ให้ดูสบายตาน่ากดมากขึ้น)
- สอบถามลูกค้าขาประจำไปตรงๆ เพราะลูกค้าประจำนี่แหละที่รู้ทุกแง่มุมของสินค้า/บริการ ทั้งข้อดีและข้อเสีย เพียงแค่ว่าจะมีโอกาสได้บอกเล่าออกมาหรือไม่ก็เท่านั้นเอง
5. เปลี่ยนที่อยู่ใน Google My Business ยังไง?
- เข้าไปที่บัญชี Google My Business
- จากแถบเมนู คลิกที่ “Info”
- คลิกที่ช่องแถบที่อยู่ ใส่ข้อมูลที่อยู่ลงไปแล้วกด “Apply”
- Google จะค้นหาที่อยู่ตามที่กรอก ถ้าระบบหาไม่เจอ ให้เราคลิกที่ “Set marker location” ที่จะอยู่เหนือแผนที่ทางด้านขวามือของคุณ
- แผนที่จะขึ้นมาพร้อมกับหมุดสีแดง คุณสามารถลากหมุดนี้มาอยู่ตรงกลางที่ตั้งธุรกิจของคุณได้เลย ถ้าเสร็จแล้วก็คลิก “Apply”
- การเปลี่ยนแปลงจะยังไม่แสดงในทันที เพราะ Google จะนำข้อมูลนี้ไปรีวิวความถูกต้อง ก่อนจะอนุมัติผลให้แสดงใน Google My Business
สรุป
Google My Business หรือ Google Business Profile ทำให้ธุรกิจมีตัวตนและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับคนทำธุรกิจออฟไลน์และจำเป็น 100% เลยสำหรับคนที่ทำธุรกิจออนไลน์
- 1. เพิ่มโอกาสให้ชื่อแบรนด์ติดลิสต์รายชื่อธุรกิจ
Google My Business มักสร้างลิสต์บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งทำให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักได้ในกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่กำลังมองหาคุณอยู่ และกลุ่มเหล่านี้นี่เองที่มีความตั้งใจรวมถึงกำลังซื้อสูงที่ธุรกิจตามหา
- 2. รวมและแสดงรีวิวจากลูกค้าผู้ใช้งาน
Google Business Profile จะมีส่วนของรีวิวหรือความคิดเห็นของผู้ใช้งานหรือลูกค้า หากธุรกิจของคุณขายสินค้าหรือบริการคุณภาพดี มีบริการที่ถูกใจลูกค้า รีวิวจะมีประโยชน์มากๆ เพราะจะช่วยโฆษณาและเรียกลูกค้าให้คุณเอง
ซึ่งความเห็นของลูกค้าหรือ Social Proof มีอิทธิพลสูงมากต่อการซื้อสินค้าและบริการของลูกค้าคนอื่นๆ ต่อไป
- 3. เรียนรู้ธุรกิจของตัวเอง
เจ้าของธุรกิจสามารถเรียนรู้ข้อมูลที่ได้จาก Google Business Profile ไว้ใช้ปรับปรุงหรือพัฒนาธุรกิจของคุณต่อไปได้ ข้อมูลที่ว่านั้นก็เช่น
- ยอดวิวโปรไฟล์ รูปภาพ และโพสต์ต่างๆ
- คำค้นที่ลูกค้าค้นจนเจอธุรกิจของคุณ
- ปฏิสัมพันธ์ที่ลูกค้ามีต่อเรา
- ลักษณะลูกค้าหรือคนที่กดดูโปรไฟล์ธุรกิจของคุณ เช่น อายุ เพศ ประเทศ
- จำนวนคนคลิกเว็บไซต์ โทรเข้า ถามเส้นทาง