รับวางแผนการตลาดออนไลน์ กลยุทธ์ตลาดออนไลน์ แผนธุรกิจออนไลน์
บริษัทรับวางแผนการตลาด MARKETTIUM รับวางแผนการตลาดออนไลน์ โปรโมทสินค้าออนไลน์ วางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ วางแผนการขายของออนไลน์ ช่วยสื่อสารการตลาดออนไลน์ ธุรกิจออนไลน์ ในโลกยุคดิจิตอล การวางแผนธุรกิจออนไลน์ การเขียนแผนธุรกิจออนไลน์ ที่ดีจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยธุรกิจของคุณอย่างมาก
MARKETTIUM เราคือ อันดับ1 รับวางแผนการตลาดออนไลน์ โดยคนรุ่นใหม่ไฟแรง วางกลยุทธ์การขายของออนไลน์ เสนอแผนการตลาดออนไลน์ กลยุทธ์ออนไลน์ รวมถึงขั้นตอนการตลาดดิจิตอล
การวางแผนธุรกิจออนไลน์ จำเป็นสำหรับทุกกิจการร้านค้า
หากท่านอยากปั้นแบรนด์ให้ดังและปังบนโลกออนไลน์ต้องรู้จัก วางกลยุทธ์ธุรกิจออนไลน์ วางแผนธุรกิจออนไลน์ ให้ดี และกลยุทธ์ธุรกิจออนไลน์ที่ว่าก็คือ แผนการตลาดออนไลน์ (Online Marketing Plan) หรือ แผนธุรกิจออนไลน์ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ดังหลายเจ้า
ทุกวันนี้มีธุรกิจเกิดขึ้นให้เห็นมากมาย โดยเฉพาะธุรกิจบนโลกออนไลน์ที่ผุดขึ้นมาเยอะแยะ จนผู้บริโภคเลือกซื้อสินค้าบริการกันไม่ถูก บางแบรนด์ก็เติบโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดมีคนรู้จักมากมาย สร้างยอดขายได้อย่างมหาศาล
แต่บางแบรนด์กลับได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม ไม่รู้วิธีทำการตลาดออนไลน์ให้ได้ผล ไม่รู้ว่าต้องเลือกช่องทางไหน เลือกใช้ภาษาหรือข้อความในการสื่อสารอย่างไร หรือแม้แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกยิงโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมายแบบไหน
การวางแผนการขายของออนไลน์ ทำให้คุณไม่หลงทาง ประหยัดเงินและเวลา
ซึ่งสาเหตุนั้นอาจมาจากการที่ไม่มีเป้าหมายทางธุรกิจที่ชัดเจน ขาดการวางแผนการตลาดออนไลน์/วางแผนการขายของออนไลน์ ซึ่งก็คือ แผนธุรกิจออนไลน์ ส่งผลให้มองไม่เห็นเส้นทางที่ควรเดินนั่นเอง
ดังนั้น การวางแผนธุรกิจออนไลน์ การเขียนแผนธุรกิจออนไลน์ ที่ดีถือเป็น กลยุทธ์ธุรกิจออนไลน์ ที่จะช่วยให้เส้นทางสู่เป้าหมายของธุรกิจออนไลน์ของท่านชัดเจนขึ้น ขอให้ท่านวางใจเรา อันดับ1 กลยุทธ์การขายของออนไลน์ โดยคนรุ่นใหม่ไฟแรง มีเทคนิคและเครื่องมือสำคัญสำหรับทำ แผนการตลาดออนไลน์ เพื่อยกระดับธุรกิจของท่านในโลกออนไลน์ มีแผนชัดเจน รวมกันกับเราเติบโตไปได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
ขั้นตอนการตลาดออนไลน์ มีอะไรบ้าง?
ตัวอย่างแผนการตลาดจำเป็นมากกับคนที่พึ่งเริ่มทำธุรกิจ การวางแผนการตลาดออนไลน์/วางแผนการขายของออนไลน์ เริ่มจากการตั้งคำถามเพื่อกำหนดเป้าหมายทางการตลาด เพื่อทำการตลาดออนไลน์ให้ได้ผล
- อยากเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ๆ หรืออยากขยายฐานลูกค้าหรือไม่
- อยากจะเพิ่มรายได้หรือไม่
- สนใจจะเพิ่มการรับรู้ให้แบรนด์หรือไม่
- ต้องการโปรโมทสินค้า บริการ หรือโปรโมชั่นพิเศษอยู่ไหม
- จะเพิ่มพึงพอใจของลูกค้าใช่ไหม
- อยากเพิ่มการเข้าชมเว็ปไซต์ใช่ไหม
- สนใจเพิ่มเพิ่มยอดขายโดยการเพิ่มช่องทางการขายใช่ไหม
ข้อดีของการวางแผนการตลาดออนไลน์เพื่อทำการตลาดออนไลน์ให้ได้ผล
✅ ช่วยให้ธุรกิจรู้จักตัวเองมากขึ้น
การทำธุรกิจจำเป็นที่ต้องใช้ข้อดีที่ตัวเองมีออกมาใช้ เพื่อดึงดูดลูกค้า และสร้างยอดขายเหนือคู่แข่ง
ดังนั้นการ วางแผนการตลาดออนไลน์/วางแผนการขายของออนไลน์ จะช่วยให้คุณกลับมานั่งทบทวนว่าธุรกิจที่คุณกำลังจะทำหรือทำอยู่คือธุรกิจอะไร ขายอะไร อยู่ในอุตสาหกรรมแบบไหน มีจุดแข็ง-จุดอ่อนอะไรบ้าง กลยุทธ์การขายของออนไลน์ จะเป็นยังไงต่อจากนี้
เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาจัดวางกลยุทธ์การสื่อสารที่ดี และสร้างโอกาสให้กับธุรกิจของคุณทำการตลาดออนไลน์ให้ได้ผล
✅ ช่วยให้ธุรกิจรู้จักลูกค้าดีกว่าเดิม
รู้กลุ่มเป้าหมาย รู้ว่าจะขายให้ใคร การวางกลยุทธ์การขายของออนไลน์จะไม่สะเปะสะปะ ไม่หลงทาง ตัวอย่างแผนการตลาดออนไลน์ จะช่วยให้คุณกลับมาพิจารณาว่าใครกันแน่คือ กลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) ที่แท้จริงของธุรกิจ
เพื่อให้ธุรกิจสามารถออกแบบวิธีการสื่อสาร เลือกใช้ช่องทางที่เหมาะสม และวางกลยุทธ์ในการเข้าถึงคนเหล่านี้ได้ ยิ่งรู้จักพวกเขาดีเท่าไหร่ แนวทางการเลือกสื่อสารของแบรนด์จะชัดเจนยิ่งขึ้น
✅ ช่วยกระตุ้นการทำงานของทีมมากขึ้น
เพราะตัวอย่างแผนการตลาดออนไลน์คือการตั้งเป้าหมาย วางกลยุทธ์การขายของออนไลน์ วางกลยุทธ์การโปรโมทสินค้าออนไลน์ วางกลยุทธ์การขายสินค้าออนไลน์ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด
ดังนั้นการสร้างแผนการตลาดขึ้นมาจึงมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของทีมให้ไปในทิศทางเดียวกันและไม่หลงทาง เพราะทุกคนมองเห็นเป้าหมายสุดท้ายเดียวกันว่าคืออะไร และการจะเข้าไปถึงเป้าหมายนั้นต้องลงมือสร้างผลงานอะไรออกมาบ้าง ตามหน้าที่ และความรับผิดชอบของตัวเอง
✅ ช่วยให้การทำการตัดสินใจเฉียบขาดขึ้น
ตัวอย่างแผนการตลาดออนไลน์นั้นช่วยให้เจ้าของธุรกิจ หรือทีมสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และเฉียบขาดมากขึ้น ลดความเสี่ยงที่จะเกิดจากการตัดสินใจพลาดเพราะความลังเล
แผนการตลาดออนไลน์ตัวอย่างที่ทำไว้ได้กำหนดไว้แล้วว่าควรอะไรก่อนและหลัง ใช้ระยะเวลาในการสร้างผลงานเหล่านั้นนานแค่ไหน ซึ่งเป็นประโยชน์ที่ไม่ต้องเสียเวลาตัดสินใจนาน และสามารถลงมือทำงานได้ทันทีตามเวลาที่กำหนดเอาไว้
✅ ช่วยติดตามผลลัพธ์ได้อย่างดี
ข้อดีอีกอย่างของการทำแผนการตลาดออนไลน์คือ ทุกผลงานที่ลงมือทำลงไปนั้นสามารถติดตามผลลัพธ์ได้ เพราะการวางแผนการตลาดออนไลน์ กลยุทธ์ขายของออนไลน์ กลยุทธ์ธุรกิจออนไลน์ การวางแผนการขายของออนไลน์ นั้นจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมาย และเพื่อให้ธุรกิจรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นได้ผล หรือไม่ได้ผลจำเป็นต้องวัดผลว่าพิชิตเป้าหมายหรือไม่ โดยวิธีการวัดผลนั้นก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้
6 กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ มีอะไรบ้าง
กลยุทธ์ธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบันสามารถเริ่มโดยใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่เป็น social media ได้ง่ายๆ แต่ การทำการตลาดออนไลน์ให้ได้ผล ก็คือเรื่องของวางแผนการตลาดออนไลน์/วางแผนการขายของออนไลน์ ที่หากคุณทำพลาดคุณจะเสียเงินและเวลามากกว่าที่คุณคิดแน่นอน
การวางแผนการตลาดออนไลน์ตัวอย่างของแต่ละคนอาจมีขั้นตอนไม่เหมือนกัน กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ กลยุทธ์ขายของออนไลน์ กลยุทธ์ธูรกิจออนไลน์ แต่ละคนอาจจะเน้นวิธีที่ถนัดแตกต่างกันออกไป
คำแนะนำสำหรับมือใหม่ที่ทำการตลาดออนไลน์ก็คือ อย่าเพิ่งรีบมองหาผลลัพธ์ระยะสั้นให้มากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการซื้อโฆษณาและการยิงแอด เพราะถึงแม้หลายคนจะสามารถทำรายได้หลักล้านจะโฆษณาได้ แต่ก็มีอีกหลายคนที่เสียหายไปมากกว่าเช่นกัน
✅ วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของตัวเอง
ก่อนที่จะลงมือสร้างกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ กลยุทธ์การขายออนไลน์ ทำคอนเทนต์ตีตลาด สิ่งแรกที่ทุกธุรกิจต้องรู้ และเข้าใจอย่างละเอียดที่สุดคือการรู้จักแบรนด์ของตัวเอง ว่าแบรนด์ของคุณขายอะไร มีภาพรวมอย่างไร
และขั้นตอนถัดไปคือการนำความเข้าใจมาสร้างกลยุทธ์การโปรโมทสินค้าออนไลน์ กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดออนไลน์ ในเรื่องภาพลักษณ์ของแบรนด์ และสุดท้ายถึงเริ่มทำความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง
เครื่องมือตัวแรกคือ Business Model Canvas หรือเครื่องมือที่ประกอบไปด้วยปัจจัย 9 อย่างที่จำเป็นต่อธุรกิจ ได้แก่
- Key Partners หรือพันธมิตรทางธุรกิจ
- Key Activities หรือกิจกรรมทางธุรกิจ
- Key Resources หรือทรัพยากรหลักที่ธุรกิจจำเป็น
- Value Propositions หรือจุดขายของธุรกิจ
- Customer Relationship หรือความสัมพันธ์กับผู้บริโภค
- Customer Segment หรือกลุ่มผู้บริโภคของธุรกิจ
- Channels หรือช่องทางการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภค
- Cost Structure หรือต้นทุนทั้งหมดของธุรกิจ
- Revenue Streams หรือรายได้ของธุรกิจ
การประสบความสำเร็จของแบรนด์ก็คือ การมี Corporate Identity หรือ CI ที่ทำหน้าที่เป็นภาพจำของแบรนด์ให้กับกลุ่มเป้าหมาย เพราะสิ่งนี้คือการผสมผสานระหว่าง Branding และ Design เข้าไว้ด้วยกัน อย่างเช่น การที่เราเห็นสัญลักษณ์ หรือ โลโก้ ของแบรนด์แล้วเกิดความรู้สึกไว้ใจและเชื่อมั่นถึงคุณภาพและบริการที่เกิดขึ้น
การวิเคราะห์ลูกค้าโดยจำแนกกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ กิจการร้านค้าควรจะเก็บข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ทั้งทีมมองเห็นภาพชัดเจนว่าควรเลือกช่องทาง ภาษา และวิธีการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างไร
- ข้อมูลพื้นฐาน เช่น อายุ, อาชีพ, รายได้, ครอบครัวและการศึกษา เป็นต้น
- เป้าหมาย / ปัญหาที่พบเจอ / รูปแบบการใช้ชีวิต
- พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้า
- ปัจจัยในการเลือกซื้อสินค้า
- ช่องทางที่ใช้งานเป็นประจำ
- แบรนด์หรือคนดังที่ชื่นชอบ เป็นต้น
✅ พิจารณาจุดแข็งและจุดอ่อนของธุรกิจ
การที่รู้ว่าเรามีดีและเสียในเรื่องอะไรนับว่าเป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจ โดยเครื่องมือที่จะมาช่วยคุณวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนของธุรกิจคือ SWOT Analysis
- Strength หรือจุดแข็งของธุรกิจ
- Weakness หรือจุดอ่อนของธุรกิจ
- Opportunity หรือโอกาสที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ
- Threat หรือความท้าทายที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ
✅ กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ
เมื่อรู้แล้วว่าสร้างธุรกิจอะไร และทำออกมาเพื่อขายให้ใคร ขั้นตอนต่อไปก่อนเริ่มต้นทำแผนการตลาดออนไลน์ กลุยุทธ์การตลาดออนไลน์ ก็คือ การกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจ เพื่อให้ทีมสามารถสร้างแผนที่สอดคล้องกับเป้าหมายได้นั่นเอง
เครื่องมือที่หลายธุรกิจมักนำมาใช้ในการกำหนดเป้าหมายคือ SMART Goal หรือเป้าหมายที่ประกอบไปด้วยปัจจัย 5 อย่างได้แก่
- Specific เป้าหมายต้องเฉพาะเจาะจง
- Measurable เป้าหมายต้องวัดผลได้
- Attainable เป้าหมายต้องอยู่บนความเป็นจริง และสามารถจับต้องได้
- Relevant เป้าหมายต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่กำลังทำ
- Time Bound เป้าหมายต้องมีขอบเขตเวลาที่แน่นอน
ตัวอย่างเหล่านี้คือเป้าหมายที่มีความเฉพาะเจาะจงและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้กับการทำแคมเปญการตลาดออนไลน์ได้ เช่น
- ทำเว็บไซต์บริษัทให้บริษัทติดอันดับหน้าแรกกูเกิ้ลภายในระยะเวลาอย่างน้อย 3-4 เดือน จากปัจจุบัน
- เพิ่มยอดติดตามบนโซเชียลมีเดียให้ได้ 600 คนภายใน 4 สัปดาห์
- เพิ่มยอดการเข้าชมเว็ปไซต์ให้ได้ 500 ผู้เข้าชมต่อสัปดาห์ ภายในระยะเวลา 2 เดือน
- เพิ่มยอดขายให้ได้ 20% ภายใน 4 เดือน
การตั้งค่าตัวเลขและวัดผลต่อเนื่องเพื่อให้เราสามารถพัฒนาแผนการตลาดของเราเพิ่มเติมได้ หรือ KPI (Key Performance Indicators) หมายถึงดัชนีวัดผล ซึ่งเป็นตัวเลขที่เราใช้บอกว่ากิจกรรมต่างๆที่เราทำนั้นเกิดประโยชน์มากแค่ไหน
ตัวอย่างที่ตรงไปตรงมาที่สุดก็คือ หากเราลงงบโฆษณาไป 10,000 บาทเราจะได้ยอดขายและกำไรกลับมาเท่าไหร่ หรือหากเราอยากจะทำ Content Marketing 30 โพสทั้งเดือน เราจะประเมินคุณค่าของกิจกรรมเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง
ข้อดีของการตลาดออนไลน์ก็คือตัวเลขส่วนมากนั้นสามารถวัดผลได้ง่าย เช่น จำนวนคนที่มองเห็นโฆษณาหรือว่าจำนวนคนที่คลิกเข้ามา ทักเข้ามาคุยกับเรา(ทำได้ทั้งใน Facebook Google Website และ YouTube) แปลว่าหากเราดูตัวเลขนี้เป็นเราก็จะรู้ว่าโพสต์แบบไหนถึงจะทำให้เข้าถึงคนได้เยอะ เขียนข้อความแบบไหนลูกค้าถึงจะเข้ามาดู
ในกรณีตรงกันข้าม กิจกรรมที่ทำแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็ควรที่จะถูกวัดผลเพื่อทำให้ดีขึ้นหรือว่าพิจารณาตัดทิ้งไปเลย เช่น โฆษณาที่ลงแล้วมีผลประกอบการไม่ดี กิจกรรมการตลาดบางอย่างที่เราทำมานานแล้วแต่กลับไม่เกิดผลตามที่คาดไว้
คำแนะนำเบื้องต้นก็คือ ให้ค่อยๆวัดตัวเลขที่จับต้องได้ง่ายก่อน หากเราเริ่มมาตอนแรกแล้วไม่มีคนซื้อ เราก็จำเป็นต้องวัดคนที่ทักเข้ามา หากเรายังไม่มีคนทักเข้ามาเราก็ต้องวัดจำนวนคนที่เห็นข้อความ การค่อยๆพัฒนาแต่ละกระบวนการ แก้ปัญหาทีละนิด คือหัวใจของการดำเนินแผนการตลาดแบบยั่งยืน (สนใจกด >> รับวางแผนการตลาดออนไลน์)
✅ วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
ลงมือวางแผนการตลาดออนไลน์/วางแผนการขายของออนไลน์ โดยตั้งเป้าหมายไว้เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ วางกลยุทธ์ออนไลน์ กลยุทธ์การสื่อสารการตลาดออนไลน์ ผลิตคอนเทนต์ออกมาให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งในแต่ละช่วงจะมีวิธีการเลือกทำคอนเทนต์ และวิธีการสื่อสารที่แตกต่างกันออกไปตามช่วงเวลา โดยแบ่งระยะตามนี้
- ช่วงตามหากลุ่มลูกค้าที่ต้องการ หรือ Lead (Awareness Stage)
- ช่วงลูกค้ากำลังตัดสินใจ (Consideration Stage)
- ช่วงที่ได้ลูกค้าจริง (Conversion Stage)
✅ ประเมินผลงาน
เมื่อใช้แผนและบันทึกเวลาทำให้เห็นผล รู้ว่ากลยุทธ์อะไรดีอะไรไม่ดี ก็ให้เลือกวิธีดีหลีกเลี่ยงวิธีที่ไม่ดี
✅ เรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น
นำสิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ไปปรับปรุงในการทำครั้งต่อไป ทดลองไปเรื่อยๆ
บริการของเราทำความรู้จักกับเครื่องมือทำกลยุทธ์ตลาดออนไลน์
กลยุทธ์ธุรกิจออนไลน์ หรือการตลาดดิจิทัล เป็นวิธีทำการตลาดในยุคสมัยใหม่ที่มีช่องทางให้คุณเลือกในการทำการตลาดในหลากหลายช่องทาง และในหลากหลายแพลทฟอร์ม สามารถเรียกรวมกันได้ว่าเป็น Omni Channel ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มนั้นก็จะมีวิธีที่เหมาะสมในการทำกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดออนไลน์ที่แตกต่างเป็นของตัวเอง โดยมีรูปแบบหลักๆ ดังนี้
- Search Engine Marketing – เป็นการทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต
- Website Marketing – การทำการตลาด บนเว็บไซต์ของคุณเอง
- Content Marketing – การใช้เนื้อหา คอนเทนต์ ประเภทต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการทำการตลาด
- Email Marketing – ทำการตลาดโดยใช้ใน การสื่อสาร ผ่านอีเมล
- Social Media Marketing – การตลาดบน Facebook, Instagram , LINE OA และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
- Mobile Marketing – การตลาดบน App Store และ Google Play Store
- Video Marketing – การตลาดบน YouTube, TikTok, Vimeo และแพลตฟอร์มวิดีโออื่น ๆ โดยอาจจะใช้ตัวช่วยอย่าง Influencer มีความสามารถในการช่วยเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Affiliate Marketing – การทำตลาดผ่านการโปรโมตผลิตภัณฑ์